เมื่อวันที่ 27 พ.ค. เอเอฟพี รายงานสถานการณ์ประท้วงต่อต้านทางการจีนในฮ่องกง ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงประกาศเขตหวงห้ามเด็ดขาดในพื้นที่โดยรอบอาคารรัฐสภา และยิงกระสุนละออง หรือ สเปรย์พริกไทยเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางมาชุมนุมต่อต้านการออกกฎหมายห้ามสบประมาทเพลงชาติจีน
การประท้วงดังกล่าวเป็นการชุมนุมต่อเนื่องหลังจากสภาประชาชนจีนเดินหน้าผลักดันกฎหมายความมั่นคงโดยไม่ไยดีต่อกฎหมายของฮ่องกงเพื่อจัดการกับบรรดาผู้ประท้วงเรียกร้องระบอบประชาธิปไตย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา เตือนว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจทำให้ฮ่องกงสูญสิ้นสถานะความเป็นศูนย์กลางการเงินของโลก หากทางการจีนเพิกเฉยต่อเสรีภาพของประชาชน และความเป็นอิสระของสถาบันตุลาการฮ่องกง
นายทรัมป์กล่าวด้วยว่าเตรียมตอบโต้จีนอย่างหนักถึงการที่จีนจะใช้กฎหมายความมั่นคงจัดการกับฮ่องกง และจะประกาศให้รู้ว่าคืออะไรปลายสัปดาห์นี้
ด้านนางเคย์ลีห์ แม็กอีแนนี โฆษกผู้นำสหรัฐ เผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่พอใจ กรณีที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน สั่งให้กองทัพจีนยกระดับความพร้อมเพื่อปกป้องภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในฮ่องกง
การปะทะกันล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมเปิดปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์การผลักดันกฎหมายห้ามสบประมาทเพลงชาติจีนของสภาฮ่องกง โดยกำหนดให้ผู้ที่มีความผิดจะต้องได้รับโทษจำคุกนาน 3 ปี ผู้ไม่เห็นด้วย มองว่านี่คืออีกสัญญาณหนึ่งที่บั่นทอนเสรีภาพในฮ่องกง
แผนชุมนุมดังกล่าวส่งผลให้ตำรวจวางกำลังโดยรอบอาคารรัฐสภาทันทีพร้อมสิ่งกีดขวาง และส่งกำลังออกไปทั่วเกาะเพื่อตั้งด่านตรวจค้นผู้ชุมนุมเพื่อสกัดกั้นไม่ให้มีผู้ชุมนุมเดินทางมาเข้าร่วมการปราศรัยดังกล่าว
ขณะเดียวกัน มีผู้ประท้วงหลายร้อนคนจัดแฟลชม็อบบริเวณคอสเวย์ เบย์ ช่วงก่อนถึงเวลาปราศรัยด้วยทำให้ตำรวจกระหน่ำยิงกระสุนละอองพริกไทยเข้าสลาย
นายเนธาน หลอ แกนนำคนหนึ่งของกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกง กล่าวว่า บรรยากาศที่กำลังเกิดขึ้นนั้นราวกับว่าฮ่องกงอยู่ภายใต้คำสั่งเคอร์ฟิว ตนคิดว่ารัฐบาลควรหันมามองและทำความเข้าใจมากกว่าว่าเหตุใดประชาชนถึงกำลังเดือดดาลขนาดนี้
รายงานระบุว่า ฮ่องกงอยู่ภายใต้มาตรการฉุกเฉินเพื่อชะลอการระบาดของโรคโควิด-19 ห้ามชุมนุมเกิน 8 คน แม้ฮ่องกงจะประสบความสำเร็จในการหยุดยั้งการระบาดแล้ว แต่รัฐกลับยังไม่ยุติมาตรการฉุกเฉินดังกล่าว
ที่มา : ข่าวสด