จำนวนผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อยู่ที่ระดับมากกว่า 8.8 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 465,000 คน ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ตามเวลาในสหรัฐฯ

สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2.26 ล้านคน เสียชีวิตเกือบ 120,000 คน ตามมาด้วยบราซิล ที่มีผู้ติดเชื้อกว่า 1 ล้านคน เสียชีวิตราว 5 หมื่นคน และรัสเซีย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อกว่า 580,000 คน

เกาหลีใต้รายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 48 รายในวันอาทิตย์ ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งอยู่ในกรุงโซล ขณะที่จีนรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่ม 25 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงปักกิ่ง

เจ้าหน้าที่จีนระบุว่า เวลานี้ กรุงปักกิ่งสามารถตรวจหาเชื้อโคโรนาไวรัสได้วันละเกือบ 1 ล้านคน หลังจากเกิดการระบาดรอบใหม่เมื่อกว่าหนึ่งสัปดาห์ที่แล้ว ในเมืองที่มีประชากรราว 20 ล้านคนนี้

ด้านองค์การอนามัยโลก ออกมาเตือนว่าสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโควิด-19 กำลังยกระดับขึ้นในรูปแบบใหม่และอันตรายกว่าเดิม พร้อมเตือนว่ามาตรการล็อคดาวน์ยังเป็นหนทางสำคัญในการสกัดกั้นการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้

เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เทดรอส อัดนอม เกเบรเยซุส กล่าวว่า การระบาดของโคโรนาไวรัสกำลังเข้าสู่ “เฟสใหม่ที่อันตราย” จากตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในแต่ละวัน โดยกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ในทวีปอเมริกา ส่วนที่เหลือเป็นฝั่งเอเชียใต้และตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ นายเกเบรเยซุส ระบุว่า สาเหตุหนึ่ง คือ ผู้คนเริ่มเบื่อหน่ายในการล็อคดาวน์เพื่อลดการระบาดของโควิด-19 สะท้อนได้จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นหลังผ่อนคลายล็อคดาวน์ในหลายประเทศทั่วโลก แต่ ผอ.ใหญ่อนามัยโลกย้ำว่า มาตรการล็อคดาวน์ยังจำเป็นต่อการลดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งสามารถระบาดได้อย่างรวดเร็วและอันตราย

ส่วนประเด็นเรื่องการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 นายเกเบรเยซุส ย้ำว่า เป็นหนทางที่ยากลำบาก จากที่ปัจจุบันมีวัคซีน 141 ชนิดอยู่ในการพัฒนา แต่มีเพียง 13 ชนิดที่อยู่ระหว่างการทดสอบในมนุษย์ และที่ผ่านมา มนุษยชาติยังไม่สามารถพัฒนาวัคซีนโคโรนาไวรัสตัวไหนออกมาได้สำเร็จ แต่ถ้าหากทำได้ก็จะถือเป็นวัคซีนโคโรนาไวรัสขนานแรกของโลกก็ว่าได้

 

 

 

ที่มา : VOA

841 Views