สำนักข่าว BBC รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 กันยายน ชาวออสเตรเลียประมาณ 250 คนพร้อมใจกันฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์ออกมาชุมนุมประท้วงบริเวณตลาดควีนวิคตอเรีย ในนครเมลเบิร์น เพื่อแสดงพลังต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ โดยเป็นการออกมาประท้วงครั้งที่ 2
ตำรวจเปิดเผยว่า กลุ่มผู้ประท้วงหลายรายแสดงท่าทีก้าวร้าว และข่มขู่ว่าจะก่อเหตุรุนแรง ทำให้ตำรวจต้องจับกุมตัวผู้ประท้วงไปอย่างน้อย 74 ราย
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในออสเตรเลียล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่ม 44 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 26,651 ราย ขณะที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 7 ศพ มาอยู่ที่ 810 ศพ โดยรัฐวิคตอเรียเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุดคิดเป็น 75% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม และคิดเป็น 90% ของตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม มาตรการล็อกดาวน์ของออสเตรเลีย ดำเนินมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ทางการคาดว่าเตรียมจะประกาศคลายล็อกดาวน์ได้ในเร็ววันนี้ หากตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
ด้าน นายแดเนียล แอนดริวส์ ผู้ว่าการรัฐวิคตอเรีย เปิดเผยว่า นับเป็นวันที่ 10 ติดต่อกันแล้วที่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่น้อยกว่าหลักร้อย ทำให้ขณะนี้ทางการกำลังพิจารณาว่าอาจจะสามารถเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ได้ แต่ธุรกิจต่างๆ ในนครเมลเบิร์นอาจจะยังไม่สามารถเปิดได้ก่อนวันที่ 26 ตุลาคม.
[/responsivevoice]
ที่มา : ไทยรัฐ
