เอเชียนำหน้าภูมิภาคอื่นของโลกที่ปิดกั้นสื่อมวลชนรายงานโควิด 19

[responsivevoice voice=”Thai Female” buttontext=”ฟังข่าว 4 นาที”]

ขณะนี้ถึงแม้ทวีปเอเชียโดยรวมจะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด 19 ในอัตราค่อนข้างน้อยกว่าทวีปอื่น แต่องค์กรด้านเสรีภาพสื่อมวลชนรายงานว่ารัฐบาลของประเทศในเอเชียขัดขวางก่อกวนและจับกุมผู้สื่อข่าวที่รายงานเกี่ยวกับโควิด 19 และพยายามปิดกั้นไม่ให้ประชาชนได้รับข่าวสารที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่าในภูมิภาคอื่นของโลก

องค์กรซึ่งทำงานด้านเสรีภาพของสื่อมวลชนชื่อ International Press Institute หรือ IPI ในออสเตรเลียระบุว่าทวีปเอเชียนำหน้าภูมิภาคอื่นใดของโลกในแง่การจำกัดเสรีภาพสื่อมวลชนในส่วนที่เกี่ยวกับการรายงานข่าวโควิด-19 โดยมาตรการต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของสื่อมวลชนในเอเชียในด้านนี้มีตั้งแต่การถูกตั้งข้อหาและการจับกุม การจำกัดการเข้าถึงข้อมูล การเซ็นเซอร์ข่าว การออกกฎระเบียบที่อ้างว่าใช้เพื่อควบคุมการเผยแพร่ข่าวปลอม รวมทั้งการทำร้ายสื่อมวลชนทั้งทางร่างกายและการโจมตีด้วยวาจา เป็นต้น โดย IPI ให้ตัวเลขว่าจนถึงขณะนี้ประเทศต่างๆในเอเชียมีการตั้งข้อหาหรือจับกุมผู้สื่อข่าวแล้วรวม 102 ครั้งและในแง่ของการเซ็นเซอร์ข่าวเรื่องโควิด-19 นั้นทวีปเอเชียก็มาเป็นที่สองรองจากทวีปยุโรปด้วย

คุณ Ravi Prasad ของหน่วยงาน IPI อธิบายว่าโดยพื้นฐานภูมิหลังแล้วรัฐบาลของประเทศในเอเชียไม่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นทุนเดิมมาก่อน และปัญหานี้จะยิ่งแย่ลงโดยเฉพาะในประเทศซึ่งมีรัฐบาลหรือผู้นำที่เป็นเผด็จการหรือใช้นโยบายแนวประชานิยม โดยในแง่เสรีภาพการทำงานของสื่อมวลชนในภาพรวมทวีปเอเชียก็มาเป็นที่สองรองจากภูมิภาคตะวันออกกลางและทวีปแอฟริกาตอนเหนือ

แต่นอกจากรายงานของ IPI แล้วตัวเลขจากหน่วยงานผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนของฝรั่งเศสและคณะกรรมการเพื่อปกป้องผู้สื่อข่าวหรือ CPJ ในสหรัฐก็ชี้ว่ารัฐบาลของประเทศในเอเชียใช้ความพยายามมากกว่าในทวีปอื่นเพื่อทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด เซ็นเซอร์เนื้อหาการรายงานข่าว หรือก่อกวนรังควานผู้สื่อข่าวในส่วนที่เกี่ยวกับการรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโควิด-19 เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายงานของ IPI และ CPJ ชี้ว่าอินเดียซึ่งขณะนี้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันซึ่งได้รับการยืนยันสูงที่สุดในโลกและมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยรวมเป็นที่สองรองจากสหรัฐนั้นมีการละเมิดเสรีภาพของสื่อมวลชนมากกว่าประเทศใดในเอเชีย โดยวิธีที่รัฐบาลอินเดียใช้ก็มีอย่างเช่นการตั้งข้อหาอาญากับบรรณาธิการบริหารของเว็บไซต์ข่าวแห่งหนึ่งซึ่งรายงานว่าประชาชนในหมู่บ้านตัวอย่างที่ตั้งขึ้นตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดินั้นมีปัญหายากจนและทุกข์ยากจากมาตรการล็อคดาวน์ของรัฐบาล และนอกจากการตั้งข้อหาและจับกุมผู้สื่อข่าวแล้วรัฐบาลอินเดียยังพยายามขออำนาจจากศาลฎีกาเพื่อตรวจเซ็นเซอร์เนื้อหาข่าวของสื่อมวลชนก่อนออกเผยแพร่ด้วย อย่างไรก็ตามศาลฎีกาของอินเดียได้บอกปัดคำร้องของรัฐบาล