ทางการนอร์เวย์แจ้งพบผู้เสียชีวิต 23 คน หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เตือนผลข้างเคียงกลุ่มผู้สูงอายุสุขภาพอ่อนแอ อาจมีอันตรายถึงชีวิต “ไฟเซอร์-ไบโอเอนเทค” กำลังสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิต

วันที่ 16 มกราคม 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าทางการประเทศนอร์เวย์พบผู้เสียชีวิต 23 คนจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งหน่วยงาน “นอร์วีเจียน เมดิซิน เอเจนซี่” (NoMA) ระบุว่า จากการชันสูตรศพทั้งหมด 13 ศพ พบว่าทุกคนมีลักษณะผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีนที่คล้ายคลึงกัน และเตือนว่าการฉีดวัคซีนแก่ผู้สูงอายุและผู้ที่อ่อนแออาจมีผลข้างเคียงที่อันตราย

องค์กรด้านสาธารณสุขของนอร์เวย์กล่าวว่า สำหรับบุคคลที่อ่อนแออย่างมาก ผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อยจากวัคซีนอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งสำหรับคนที่อาจมี “อายุขัย” อยู่ได้อีกไม่นาน วัคซีนแทบจะไม่มีผลเลย

ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าคนที่สุขภาพแข็งแรงและยังอายุน้อย ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีน แต่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสิ่งที่ควรสังเกตหลังจากหลาย ๆ ประเทศเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชน

โดยขณะนี้ประเทศนอร์เวย์ได้มีการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสให้กับประชาชนราว 33,000 คนทั่วประเทศ โดยมุ่งฉีดไปที่ประชากรกลุ่มเสี่ยงอย่างผู้สูงอายุ ซึ่งทางการนอร์เวย์ได้อนุมัติวัคซีนที่ “ไฟเซอร์ อิงค์” และ “ไบโอเอนเทค เอสอี” เมื่อปลายปีที่แล้ว และได้อนุมัติวัคซีนของทางบริษัท “โมเดอร์นา อิงค์” เมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการรายงานว่าผู้ที่เสียชีวิตฉีดวัคซีนของบริษัทไหน

ขณะที่ทางบริษัท ไฟเซอร์ และไบโอเอนเทค กำลังร่วมงานกับหน่วยกำกับดูแลนอร์เวย์เพื่อสืบสวนถึงสาเหตุของผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ทางการไฟเซอร์ระบุว่าจำนวนคนที่เสียชีวิตไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว และเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว

ด้าน “อีเมอร์ คุก” ประธานองค์กรยาของสหภาพยุโรประบุว่า การติดตามความปลอดภัยของการใช้วัคซีน โดยเฉพาะวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี “เอ็มอาร์เอ็นเอ” จะเป็นสิ่งที่ยากที่สุด หลังประชาชนทั่วโลกได้เริ่มฉีดวัคซีนแล้ว

ทั้งนี้ ทั่วโลกยังคงไม่พบอาการแพ้วัคซีนจำนวนมาก ทางการสหรัฐรายงานว่าพบผู้มีอาการแพ้ 21 คนจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในช่วงวันที่ 14-23 ธ.ค. 2563 ซึ่งช่วงเวลานั้นมีผู้ฉีดวัคซีน 1.9 ล้านคนของทางไฟเซอร์ หมายความว่าพบผู้มีอาการแพ้เพียง 1% ใน 11.1 ล้านคน

 

ที่มา : ประชาชาติธุระกิจ

674 Views