ปปช.พม่าหลายหมื่นคนเข้าร่วมการประท้วงครั้งใหญ่ต่อต้านรัฐประหารเมียนมาร์

เมียนมาร์ได้เห็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าทศวรรษเนื่องจากประชาชนหลายหมื่นคนรวมตัวกันต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพและเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางอองซานซูจีผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง

“ เราไม่ต้องการเผด็จการทหารพวกเราต้องการประชาธิปไตย” ฝูงชนต่างพากันสวดมนต์ในเมืองหลักอย่างย่างกุ้ง มีการจัดงานชุมนุมในเมืองอื่น ๆ มากกว่าหนึ่งโหล

ขณะนี้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้รับการกู้คืนแล้วหลังจากไฟดับตลอดทั้งวัน

กองทัพยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการต่อต้านการรัฐประหารในวันจันทร์ที่เพิ่มมากขึ้น

ทหารเข้ายึดอำนาจหลังอ้างโดยไม่มีหลักฐานว่าการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนเป็นการฉ้อโกง บรรดาผู้ปกครองได้ประกาศภาวะฉุกเฉินมาเป็นเวลา 1 ปีและได้ถูกเนปิดอว์ลงในเมืองหลวงอย่างเนปิดอว์

นางซูจีและผู้นำระดับสูงของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) รวมถึงประธานาธิบดีวินมินต์ถูกกักบริเวณ

ในย่างกุ้งประชาชนสวมเสื้อสีแดงและถือลูกโป่งสีแดงซึ่งเป็นสีของงานเลี้ยงของนางสาวซูจีขณะที่รถยนต์และรถประจำทางชะลอตัวเพื่อส่งเสียงแตรสนับสนุน หลายคนชูสามนิ้วคำนับซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านอำนาจเผด็จการในภูมิภาค

ผู้ประท้วงโบกธงพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) นำโดยนางอองซานซูจีที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา
ผู้ประท้วงโบกธงพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ในย่างกุ้ง
การปิดอินเทอร์เน็ตที่กำหนดโดยทหารล้มเหลวในการควบคุมผู้ประท้วง “เคารพการลงคะแนนของเรา” อ่านแบนเนอร์หนึ่งอันโดยอ้างอิงถึงการชนะอย่างถล่มทลายของพรรค NLD ในเดือนพฤศจิกายน

การประท้วงในย่างกุ้งในวันอาทิตย์ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การปฏิวัติหญ้าฝรั่นในปี 2550 เมื่อพระสงฆ์หลายพันคนลุกขึ้นต่อต้านระบอบทหาร

ฝูงชนเดินขบวนไปยังเจดีย์ Sule ในใจกลางเมืองขณะที่รถตำรวจและเจ้าหน้าที่ชุดปราบจลาจลถูกประจำการใกล้มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง ไม่มีรายงานความรุนแรงในทันที

ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารรวมตัวกันในย่างกุ้งเมื่อวันอาทิตย์แม้จะมีการปิดอินเทอร์เน็ต

“ ประการแรกเราไม่ต้องการกลับไปสู่การปกครองของทหารเราไม่ต้องการอยู่ในความกลัวประการที่สองเราต้องการให้แม่ซูหลุดพ้นจากการถูกกักขังอย่างไม่เป็นธรรม” ผู้ประท้วงบอกกับบีบีซี “และประการที่สามเราต้องการขจัดระบบที่ทหารเข้ามาดำรงตำแหน่งฝ่ายบริหารพลเรือน”

ผู้ประท้วงอีกคนกล่าวว่านางซูจีเป็น “ผู้นำที่แท้จริงของพวกเรา” พร้อมเสริมว่า “เธอเป็นความหวังเดียวของเราสำหรับประชาธิปไตยของเราถ้าเธอเสียชีวิตหรือมีอะไรเกิดขึ้นกับเธออนาคตของเราคืออะไรเราต้องการเธอคืน”

คนที่สามกล่าวว่า: “การประท้วงนี้ยังไม่สิ้นสุดเราจะรวมกลุ่ม … [ทุกวัน] จนกว่าเราจะเป็นอิสระจากเผด็จการ”

นอกจากนี้ยังมีการประท้วงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเนปิดอว์เมาะละไมและมั ณ ฑะเลย์ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ

ในเมืองเมียวดีมีรายงานว่ามีการยิงกัน แต่ไม่มีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บทันที ตามสื่อท้องถิ่นบางสำนักระบุว่าตำรวจใช้กระสุนยางในการสลายการชุมนุม