กระทรวงสาธารณสุขยืนกรานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์อย่างแน่นอน ตราบใดที่พวกเขาปฏิบัติตามแนวทางของกระทรวงสำหรับการฉีดวัคซีนด้วย mRNA เป็นหลัก

กระทรวงเมื่อวันจันทร์กล่าวว่าคณะอนุกรรมการการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ตัดสินใจเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อกำหนดแนวทางสำหรับไฟเซอร์ 1,503,450 โดสที่บริจาคโดยสหรัฐฯซึ่งมาถึงประเทศเมื่อวันศุกร์

เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะมอบยาประมาณ 700,000 โดส อย่างไรก็ตาม จำนวนนี้ทำให้เกิดคำถามในหมู่ประชาชนเกี่ยวกับความเป็นธรรมของแผนการจ่ายวัคซีน เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากจะพลาดโอกาสที่จะได้รับวัคซีน เนื่องจากไม่ตรงตามเกณฑ์ของกระทรวง

นพ.ศิระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงที่ดูแลการจัดการวัคซีน อธิบายว่า เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแนวหน้าทุกคนที่เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ เขากล่าวว่า 700,000 โดสก็เพียงพอสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่แถวหน้าทุกคน

“เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่แนวหน้าทุกคน รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยและสัปเหร่อ จะได้รับวัคซีนภายใต้เกณฑ์ของเรา” นพ.ศิระ กล่าวในการแถลงข่าว

“เราเชื่อว่าเกณฑ์ของเราครอบคลุมบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือ และจำนวนวัคซีนสามารถครอบคลุมได้ทั้งหมด” เขากล่าว

“ถ้าเรามีวัคซีนเหลือ เราจะพิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กลุ่มอื่นๆ ที่ขัดสน” เขากล่าวเสริม

กลุ่มภาคประชาสังคมหลายกลุ่มเรียกร้องให้กระทรวงฯ ยิงไฟเซอร์ให้กับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพราะทุกคนมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อโควิด-19

นพ.โอภาส กาญจวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แจงว่า บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่แนวหน้า นักศึกษา และเจ้าหน้าที่ที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด-19 จะได้รับวัคซีน หากได้รับยาซิโนแวคหรือซิโนฟามหนึ่งหรือสองครั้ง .

ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนใดๆ จะมีสิทธิ์ได้รับไฟเซอร์เต็มจำนวนสองครั้ง เขากล่าว

อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่าผู้ที่ได้รับทั้งปริมาณ Sinovac และ AstraZeneca หรือมี AstraZeneca เป็นยาเสริม ไม่แนะนำให้มีไฟเซอร์

“สำหรับกรณีเหล่านี้ พวกเขามีภูมิคุ้มกันในระดับสูงในขณะนี้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องได้รับไฟเซอร์ แต่พวกเขาควรลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนในภายหลังเมื่อมีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือหากเราได้รับ วัคซีนไฟเซอร์มากขึ้นในอนาคต” เขากล่าว

ขณะเดียวกัน นพ. อิทธิพร คณาเจริญ เลขาธิการแพทยสภาแห่งประเทศไทย แสดงความขอบคุณต่อการตัดสินใจของคณะอนุกรรมการ โดยกล่าวขอบคุณกระทรวงที่รับฟังทุกเสียงที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความโปร่งใส

474 Views