FILE - This handout photo from Pauk Township News taken and released June 16, 2021, shows the remains of houses allegedly set on fire by Myanmar junta forces, in Kin Ma village, Pauk township, in Myanmar's Magway region.

FILE – ภาพถ่ายจากหนังสือพิมพ์ Pauk Township News ที่ถ่ายและเผยแพร่เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2564 แสดงให้เห็นซากบ้านเรือนที่ถูกกล่าวหาว่าจุดไฟเผาโดยกองกำลังทหารพม่า ในหมู่บ้าน Kin Ma เมือง Pauk ในเขต Magway ของเมียนมาร์

ผู้ตรวจสอบของสหประชาชาติประจำเมียนมา กล่าวหารัฐบาลทหารเมียนมาว่ากระทำการโจมตีอย่างเป็นระบบต่อประชาชนชาวเมียนมาซึ่งอาจเข้าข่าย “การก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษย์”

ผู้เสนอรายงานพิเศษของสหประชาชาติ โธมัส แอนดรูว์ ส่งรายงานการตรวจสอบสถานการณ์ในเมียนมาต่อสภาสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในวันพุธ โดยมีหลักฐานเป็นเอกสารที่แสดงให้เห็นถึงการก่ออาชญากรรมหมู่ต่อประชาชน

พร้อมระบุว่ามีชาวเมียนมาถูกสังหารมากกว่า 1,100 คน ถูกจับกุมคุมขังโดยไม่มีการพิจารณาคดีอีกอย่างน้อย 8,000 คน และต้องย้ายถิ่นฐานอีกกว่า 230,000 คน นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีนี้

Thomas Andrew
Thomas Andrew

 

แอนดรูว์ บรรยายรายละเอียดการสังหารผู้ประท้วงตามท้องถนน การทุบตีและทำทรมานผู้ถูกจับกุม การโจมตีด้วยระเบิดและเครื่องยิงจรวดแบบอาร์พีจีใส่หมู่บ้านหลายแห่ง โดยที่ไม่มีการละเว้นผู้ใดไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือเด็ก

รายงานชิ้นนี้ระบุว่า มีเด็กอายุระหว่าง 14 เดือน ถึง 17 ปี อย่างน้อย 75 คน ถูกกองกำลังทหารเมียนมาสังหารตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงกรกฎาคม

โธมัส แอนดรูว์ กล่าวว่า “ได้รับรายงานที่น่าเชื่อถือว่า มีเด็กเล็กหลายคนถูกทรมาน รวมทั้งเด็กชายสองคนที่ถูกปล่อยให้อดอาหารและถูกใช้แท่งเหล็กร้อนนาบที่ขา” และว่า “ขณะนี้รัฐบาลทหารเมียนมากำลังใช้วิธีการที่เลวร้าย รวมทั้งการลงโทษและลักพาตัวสมาชิกครอบครัวของผู้ที่ออกหมายจับแต่ทางการยังไม่สามารถจับกุมตัวได้”

ผู้เสนอรายงานพิเศษของสหประชาชาติ ชี้ว่าประชาชนจำนวนมากต่างไม่ยอมจำนนต่อการกดขี่ปราบปรามของรัฐบาลทหาร มีการจัดตั้งรัฐบาลเงาหรือ รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ โดยอดีตสมาชิกของรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจและบรรดาผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ขณะที่ประชาชนทั่วไปต่างลุกขึ้นจับปืนและก่อตั้งกองกำลังป้องกันตนเองภาคประชาชน หรือ People’s Defense Forces (PDF) เพื่อรักษาความปลอดภัยตามหมู่บ้านต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม นายแอนดรูว์ยิืนยันว่า เสรีภาพในเมียนมาจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีการสนับสนุนและการลงมืออย่างเป็นรูปธรรมจากประชาคมโลก โดยเขาแสดงความเห็นไว้ในรายงานว่า “ความพยายามด้วยความตั้งใจที่ดีของผู้ที่ต้องการยุติความรุนแรงในเมียนมาผ่านการเจรจาจะไม่มีทางประสบความสำเร็จ ตราบเท่าที่รัฐบาลทหารเมียนมายังคงไม่มีความต้องการที่จะยุติความโหดร้ายป่าเถื่อนนี้ ซึ่งดูเหมือนจะยิ่งรุนแรงขึ้น”

และว่า สิ่งที่นานาประเทศกำลังทำอยู่ในปัจจุบันเพื่อยับยั้งสถานการณ์ในเมียนมา ยังไม่ได้ผล

ผู้ตรวจสอบของสหประชาชาติเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมมือกัน และใช้มาตรการลงโทษที่มุ่งเป้าไปที่รัฐบาลทหารเมียนมาโดยตรง เช่น การคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของเมียนมาซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ ตลอดจนการคว่ำบาตรการขายอาวุธและเทคโนโลยีทางการทหารให้แก่เมียนมาซึ่งจะช่วยรักษาชีวิตประชาชนจำนวนมากได้ด้วย

467 Views