ชาวชุมชนไทยในรัฐแคลิฟอร์เนียแสดงความกังวลกับการระบาดของโคโรนาไวรัส กลายพันธุ์ สายพันธุ์โอมิครอน ที่เริ่มพบผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯแล้ว ขณะเดียวกันก็ยังคงมีการรณรงค์ในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันหรือบูสเตอร์ รวมไปถึงวัคซีนในกลุ่มเด็กเล็ก
“จะบอกว่า หนูฉีดวัคซีน แล้ว (อยาก) จะให้เพื่อนมาฉีดด้วย… ไม่เจ็บ” ด.ญ. เชรี คุ้นซ์ วัย 5 ขวบ กล่าวกับ ผู้สื่อข่าววีโอเอ ไทย หลังจากคุณแม่ พาไปรับวัคซีนป้องกันโควิด เข็มแรก ที่วัดไทย ลอส แอนเจลิส
ในเวลาไล่เลี่ยกับที่ ด.ญ. รัชวดี เศรษฐสิทธิ์ วัยเดียวกัน ที่นั่งตักคุณแม่ของเธอ บอกว่า อยากให้คนไปรับวัคซีนป้องกันโรคให้มากขึ้น
“หนูไปฉีดวัคซีน ให้รับวัคซีนกันเยอะๆ เดี๋ยวติดโควิด หนูจะไปบอกเพื่อน โควิดเป็นเชื้อโรค แล้วก็ต้องใส่หน้ากาก เดี๋ยวเป็นหวัด”
หนูน้อยเชื้อสายไทย เดินทางไปกับผู้ปกครองเพื่อรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ศูนย์บริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ ภายในวัดไทย ลอส แอนเจลิส หลังจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขสหรัฐฯให้การรับรองและสนับสนุนให้มีการฉีดวัคซีนในเด็กตั้งแต่อายุ 5 ขวบขึ้นไป
ศศิพัชร เศรษฐสิทธิ์ ชาวไทยในนครลอส แอนเจลิส บอกเหตุผลที่พาเจ้าตัวเล็กมารับวัคซีนป้องโควิด-19 เข็มแรก
“ก่อนหน้านี้กังวลกลัวว่าเด็กๆจะติด โควิดจากที่โรงเรียนเพราะว่าเด็กค่อนข้างเยอะ บางคนก็เป็นหวัดก็มาโรงเรียน บางคนใส่หน้ากากบ้าง ไม่ใส่หน้ากากบ้างก็มี ส่วนเรื่องฉีดวัคซีนให้เด็กก่อนหน้านี้ ก็ศึกษามาบ้าง แต่โดยรวมแล้วเราคิดว่าเรามั่นใจว่าถ้าลูกเรารับวัคซีนแล้ว การรับเชื้อมันจะน้อยกว่าไม่ฉีดเลยหรือว่าอาจจะไม่ติดเชื้อตรงนี้ทำให้เรารู้สึกสบายใจที่ลูกเราจะต้องไปเจอเพื่อนๆ การไปโรงเรียนหรือการเข้าฝูงชน การเดินช็อปปิ้งต่างๆ ทำให้ความกังวลใจของเรา ที่เป็นผู้ปกครองน้อยลง”
จุดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชั่วคราวในวัดไทย แห่งนี้ มีเจ้าหน้าที่ จากศูนย์ส่งเสริมชาวไทย หรือ Thai CDC องค์กรเอกชนในชุมชนไทยที่นครลอส แอนเจลิส ร่วมกับอาสาสมัครจากสมาคมพยาบาลไทยแห่งแคลิฟอร์เนีย เดินทางมาให้บริการวัคซีนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อมุ่งเน้นอำนวยความสะดวกและการเข้าถึงชาวชุมชนไทยที่อาศัยอยู่หนาแน่นในย่าน นอร์ธ ฮอลลีวูด โดยมีบริการทั้งวัคซีนสำหรับเด็กเยาวชนอายุ 5-17 ปี รวมไปถึงวัคซีนสำหรับกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หรือ บูสเตอร์ เข็มที่ 3
ธานัฐ เมธากวีภัทร เจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมชาวไทย บอกกับ ‘วีโอเอ ไทย’ ถึงการบริการวัคซีนสำหรับชุมชนไทยครั้งนี้
“คนไทยที่อยู่ในละแวกนั้นค่อนข้างจะให้ความสนใจในเรื่องของการฉีดบูสเตอร์ แล้วก็อีกส่วนหนึ่งที่เราได้รับการไว้วางใจจากประชาชนชาวไทยในนอร์ธ ฮอลลีวูด เนี่ยก็คือผู้ปกครองที่มีบุตรหรือลูกหลานตั้งแต่ในช่วงอายุ 5 ถึง 11 ปีครับ..ที่เราได้รับบริการให้กับเขา ที่มาฉีดที่นี่เพราะว่าอยากสอบถามเป็นภาษาไทย อยากพูดภาษาไทย เพื่อที่ให้แน่นอนว่าลูกเขาจะได้รับการฉีดยาที่ถูกต้องในเรื่องข้อมูลข่าวสารครับ”
ขณะที่ชาวชุมชนไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เข้ารับวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ยอมรับว่า แม้จะรับวัคซีนบูสเตอร์ไปแล้ว แต่การเริ่มระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์ โอมิครอน ไวรัสกลายพันธุ์ที่พบผู้ติดเชื้อแล้วมากขึ้นในสหรัฐฯ กำลังเป็นความกังวลครั้งใหม่ที่ต้องระวังป้องกันต่อไป
พระครูปลัดพิภพ ปริปุณฺโณ พระสงฆ์ จาก วัดไทยศรีโสดา ซันวัลเลย์ ลอส แอนเจลิส ที่เดินทางมารับวัคซีนบูสเตอร์ บอกว่า แม้จะยังไม่ทราบถึงประสิทธิภาพของวัคซีนว่าจะรับมือเชื้อไวรัสชนิดใหม่ได้หรือไม่ แต่ต้องระมัดระวังและเตรียมพร้อมด้วยความไม่ประมาท
“คือมันก็อาจจะเป็นสายพันธุ์เดิมที่กลายพันธุ์ เราก็พยายามรักษาระยะห่าง และสุขอนามัยให้แข็งแรงเข้าไว้ ก็คิดว่าน่าจะเอาอยู่นะ ก็คงจะไม่ไปปริวิตกกังวลอะไรมากมาย เพราะรู้สึกว่ากลายพันธุ์มาหลายครั้งแล้วก็ยังทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเกิดว่าเราปล่อยปะละเลย เราประมาท อย่างที่พระพุทธเจ้าเคยบอกไว้ว่าความประมาท พระพุทธเจ้าสอนเรื่องความประมาท ถ้าเราไม่ประมาทดูแลสุขภาพให้ดีมันก็น่าจะเอาชนะได้”
เช่นเดียวกับ แอนนา จันทร์เสนา ชาวไทยจากเมืองเวสต์ โควิน่า และ สุขิตา วิลลิส ชาวไทยในนครลอส แอนเจลิส ยอมรับว่า แม้จะมีความกังวลแต่ก็เชื่อมั่นในวิธีการป้องกันการระบาดที่ปฏิบัติอย่างเข้มงวดตลอดช่วงที่ผ่านมา
“ ถ้าจะกลัวหรือเปล่า? ก็กลัวแต่มันไม่เท่ากับครั้งแรกที่สายพันธุ์ครั้งแรกที่มาเพราะว่าน่าจะรู้วิธีที่จะรับมือกับมันแล้วนะคะ เพราะว่าเราก็มีประสบการณ์กับสายพันธุ์เก่า แต่ก็ไม่รู้ว่าทันไหมเนี่ยมันจะรุนแรงร้ายแรงแค่ไหน..” สุขิตา วิลลิส ชาวไทยในนครลอส แอนเจลิส บอกถึงการเตรียมรับการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่
“…ก็กลัวอยู่ค่ะแต่ก็ระมัดระวังอย่างดีค่ะมันดูแลตัวเองแล้วก็ไม่ออกไปพบท่านตามที่ชุมชนเยอะๆ ใส่หน้ากากค่ะ..” แอนนา จันทร์เสนา ชาวไทยจากเมืองเวสต์ โควิน่า กล่าวกับ ‘วีโอเอ ไทย’
ศศิพัชร เศรษฐสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า การรับวัคซีนป้องกัน covid-19 น่าจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันหรืออาจจะผ่อนหนักเป็นเบาได้หากกรณีที่ต้องโชคร้ายได้รับเชื้อโควิด
“ ก็มีส่วนหนึ่ง เรายังไม่รู้ในเรื่องของตรงนี้ค่ะว่าเราวัคซีนเราจะครอบคลุมตรงนั้นไหม แต่จริงๆแล้วก็คือมารับวัคซีนกันดีกว่าค่ะ อย่างน้อยก็คือเราก็ป้องกันได้ในระดับหนึ่งจะมากจะน้อยก็คือเรายังครอบคลุม อยากให้คนที่เรารักสุขภาพดีแข็งแรง ก็เข้ามาแล้วมารับวัคซีนกันเยอะๆ ค่ะ” ศศิพัชร กล่าว
ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า ตัวเลขคนอเมริกันที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรกเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบหกเดือนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่มีรายงานการพบเชื้อโอมิครอนในหลายรัฐ โดยมีชาวอเมริกันฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วเกือบ 200 ล้านคน และมากกว่า 45 ล้านคนฉีดเข็มบูสเตอร์เข็มที่สามแล้ว แต่ยังคงมีประชากรราว 60 ล้านคนที่เข้าข่ายฉีดวัคซีนได้แต่ยังไม่ไปรับวัคซีน