กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอให้ ศบค. ยืดเวลาการระงับการลงทะเบียนขอเข้าประเทศไทยในรูปแบบเทสต์แอนด์โก (Test and Go) จนถึงสิ้นเดือน ม.ค. นี้ หลังยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ “โอมิครอน” สะสมพุ่งเป็น 1,780 รายแล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สธ. เปิดเผยว่า การที่ทั่วโลกพบการติดเชื้อโอมิครอนเพิ่มขึ้น ทำให้เราต้องประกาศชะลอการเดินทางเข้าประเทศในระบบ Test and Go เพื่อประเมินสถานการณ์ จากเดิมจะรอดูจนถึงวันที่ 4 ม.ค. แต่ขณะนี้ยังพบผู้เดินทางเข้าประเทศติดเชื้อโอมิครอน ส่งผลให้ในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (Emergency Operation Center – EOC) ที่มีปลัด สธ. เป็นประธาน ให้ความเห็นว่า สธ. ควรเสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้พิจารณาเลื่อนมาตรการ Test and Go ออกไปจนถึงสิ้นเดือน ม.ค. ซึ่งตนให้การสนับสนุนการตัดสินใจนี้
“ยืนยันว่าเพื่อความสบายใจในเรื่องของมาตรการเข้าประเทศ และความปลอดภัยของคนในประเทศ จำเป็นต้องมีนโยบายให้เลื่อนเปิด Test and Go ออกไป ซึ่งเราจะเสนอในที่ประชุม ศบค. พิจารณาเห็นชอบทันที” นายอนุทินกล่าว
รมว.สธ. บอกด้วยว่า ผู้ที่ลงทะเบียนในระบบ Test & Go ก่อนหน้านี้ จะต้องเดินทางเข้ามาภายในวันที่ 10 ม.ค. เท่านั้น หลังจากนั้นการเดินทางเข้าไทย จะต้องเข้าระบบแซนด์บ็อกซ์ที่ จ.ภูเก็ต หรือเข้ามาในระบบกักตัวเท่านั้น
ขณะนี้ไทยอยู่ระหว่างระงับการลงทะเบียนขอเข้าประเทศชั่วคราว ทั้งในรูปแบบแซนบ็อกซ์ (Sandbox) และเทสต์แอนด์โก (Test and Go) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ตามมติของ ศบค. ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 4 ม.ค. นี้
นอกจากนี้ผู้บริหารส่วนราชการหลายแห่งยังทยอยออกประกาศแจ้งข้าราชการให้ทำงานจากที่บ้านอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่านเทศกาลปีใหม่ เช่นเดียวกับโรงเรียนในหลายจังหวัดที่ต้องกลับมาใช้การเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ 100%
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ได้ขอให้สถานประกอบการทุกประเภท สถานที่ราชการ ธนาคาร สถาบันการเงิน กิจการธุรกิจต่าง ๆ ที่จะเปิดให้บริการเป็นวันแรก 4 ม.ค. ทำการตรวจหรือสุ่มตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK (Antigen Test Kit) เมื่อกลับเข้ามาปฏิบัติงาน หากพบผลเป็นบวก ให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ทันที
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า นายกฯ เน้นย้ำทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องติดตามประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดหลังเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างใกล้ชิด เตรียมแผนการรองรับล่วงหน้าเพื่อให้สามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที
ในรอบ 24 ชม. ที่ผ่านมา ศบค. รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 2,927 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 18 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมนับจากปี 2563 จำนวน 2,177,633 ราย และผู้เสียชีวิตสะสม 21,738 ราย
ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สธ. ที่รายงานนายอนุทินระบุว่า ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนสะสม (1 พ.ย. 2564-2 ม.ค. 2565) จำนวน 1,780 ราย โดยจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์มากที่สุดคือ กรุงเทพฯ, กาฬสินธุ์, ร้อยเอ็ด, ชลบุรี และภูเก็ต