ชาวไทยประมาณ 236 คนกำลังหาทางอพยพออกจากยูเครนทันที ท่ามกลางการโจมตีโดยกองกำลังทหารรัสเซียที่รุกคืบ กระทรวงการต่างประเทศ osaid

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ นายธานี แสงรัตน์ กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่ากระทรวงมีแผนอพยพพร้อมแล้ว โดยมีศูนย์ปฏิบัติการตั้งอยู่ในเมืองลวิฟ ทางตะวันตกของยูเครน ซึ่งจะเป็นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับคนไทย

เช้าวันเสาร์ “คนไทยประมาณ 236 คนได้ร้องขอให้อพยพทันที” นายธานีกล่าว พร้อมเสริมว่าชาวไทยอีก 12 คนกำลังหลบหนีจากกรุงเคียฟ มุ่งหน้าสู่ลวีฟด้วยตนเองในวันเสาร์

ภายใต้แผนดังกล่าว เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงวอร์ซอ เมืองหลวงของประเทศเพื่อนบ้านอย่างโปแลนด์ ถูกส่งไปยังยูเครน เพื่อช่วยชาวไทยที่หลบหนีออกจากเมืองภายใต้การโจมตีของกองทัพรัสเซีย นายธานี กล่าว

ที่นั่น เจ้าหน้าที่กำลังประสานงานกับทางการยูเครนเพื่อช่วยเหลือคนไทยในการอพยพ เขากล่าว

“ลวิฟทำหน้าที่เป็นฐานที่รวบรวมและขนส่ง [คนไทย] ข้ามพรมแดน [โปแลนด์] ไปยังกรุงวอร์ซอ ก่อนที่พวกเขาจะบินกลับประเทศไทย” นายธานีกล่าว

ลวีฟอยู่ห่างจากกรุงวอร์ซอประมาณ 400 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางทางบกประมาณ 6 ถึง 7 ชั่วโมง

เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสามคนเดินทางถึงเมืองลวีฟเมื่อวันศุกร์ และได้จัดตั้งศูนย์เพื่อช่วยเหลือคนไทย ตามโพสต์บนหน้า Facebook เมื่อวันเสาร์

เมื่อวันเสาร์ มีคนไทยจำนวน 10 คนที่มีคู่สมรสชาวยูเครนอาศัยอยู่ที่ศูนย์ โดยชาวไทยอีกประมาณ 20-30 คนจากเมืองต่างๆ ของยูเครนกล่าวว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปที่นั่นด้วยรถยนต์หรือรถไฟ สถานทูตกล่าว

มีคนไทยในยูเครนทั้งหมด 253 คน และส่วนใหญ่เป็นพนักงานสปาหรือนักนวดบำบัด ตามรายงานของ MFA


สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงวอร์ซอกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ได้เตรียมเส้นทางอพยพชาวไทยจากเมืองในยูเครนไปยังลวิฟ และจัดเตรียมยานพาหนะและรถไฟเพื่อพาพวกเขาไปยังเมืองอย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ สถานทูตยังได้จัดรถบัสรับส่งคนไทย 49 คนจากเมืองโอเดสซาทางตะวันตกเฉียงใต้ไปยังลวิฟในวันเสาร์นี้

พ.ต.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กองทัพอากาศไทยจะส่งเครื่องบินขนส่ง C-130 จำนวน 3 ลำ เพื่อสนับสนุนการอพยพของคนไทย เพื่อเดินทางกลับประเทศไทยอย่างปลอดภัย

เมื่อพวกเขากลับมาถึงประเทศไทย พวกเขาจะถูกนำตัวไปยังสถานกักกันในเขตอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือไทย พ.ต.อ.วันชนะ กล่าว

โฆษกรัฐบาล ธนากร วังบุญคงชนะ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์ในยูเครนอย่างใกล้ชิด

นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะกระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ติดตามผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความขัดแย้งในยูเครน

พวกเขาได้รับคำสั่งให้ศึกษาผลกระทบต่อราคาพลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภค อัตราเงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยน และกำหนดมาตรการเพื่อให้แน่ใจว่าผลกระทบด้านลบจะมีน้อยที่สุด นายธนากร กล่าว

359 Views