ทางการจีนมีคำสั่งใช้มาตรการล็อกดาวน์เพิ่มอีกในหลายพื้นที่ของประเทศ หลังปิดเมืองเซินเจิ้นที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางเทคโนโลยีต่าง ๆ ไปเมื่อวาน (14 มี.ค.) เพื่อสกัดการแพร่กระจายของเชื้อโอมิครอนระลอกใหม่ ซึ่งอาจเป็นสายพันธุ์ย่อยที่กำลังระบาดในฮ่องกง

มีคำสั่งให้ล็อกดาวน์มณฑลจี๋หลินทางตะวันออกเฉียงเหนือทั้งมณฑล หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศกว่า 5,000 คนในวันเดียว เนื่องจากผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในมณฑลดังกล่าวซึ่งมีประชากร 24 ล้านคน และดูเหมือนว่าสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ที่นั่นจะย่ำแย่ที่สุดในขณะนี้

ส่วนเมืองหลังฟางที่ติดกับกรุงปักกิ่ง และเมืองตงกวนซึ่งอยู่ในมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ ก็มีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเร่งด่วนพร้อมกับมณฑลจี๋หลินด้วยเช่นกัน

คำสั่งล็อกดาวน์ทั้งมณฑลในครั้งนี้ เพิ่งมีขึ้นเป็นครั้งที่ 2 นับแต่โรคโควิดเริ่มระบาดที่นครอู่ฮั่นของมณฑลหูเป่ยเมื่อต้นปี 2020

แต่อัตราการแพร่เชื้อที่รวดเร็วมากในครั้งนี้ ทำให้จีนตัดสินใจใช้นโยบายที่เข้มงวดเหมือนเมื่อสองปีก่อน แม้จะได้มุ่งทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์มาอย่างต่อเนื่องก็ตาม โดยมีคำสั่งล็อกดาวน์อย่างรวดเร็ว ตรวจหาเชื้อในวงกว้าง และจำกัดการเดินทางไปมาระหว่างเมืองต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม น่าเป็นห่วงว่าแม้มาตรการที่เข้มงวดของจีน ก็ไม่อาจรับมือกับการระบาดระลอกใหม่ได้ เนื่องจากเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอนได้ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อภายในประเทศจีนช่วงต้นปีนี้ สูงกว่าที่เคยมีมาตลอดปี 2021 รวมกัน

GETTY IMAGES
เมืองเซินเจิ้นที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางเทคโนโลยีต่าง ๆ ถูกล็อกดาวน์เมื่อวานนี้

นายแพทย์จาง เหวินหง ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อของจีน กล่าวถึงการระบาดระลอกล่าสุดว่า “นี่คือช่วงยากลำบากที่สุดในการต่อสู้กับโควิดตลอดสองปีที่ผ่านมา” เขายังเตือนว่าจีนเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อ ซึ่งจะเพิ่มแบบยกกำลังขึ้นอีกหลายเท่าในไม่ช้า

อย่างไรก็ตาม นพ. จางชี้ว่า จีนไม่จำเป็นจะต้องยึดติดกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์อยู่ตลอดไป เพียงแต่ขณะนี้จำเป็นต้องคงมาตรการเข้มงวดไว้ก่อน ในช่วงที่สถานการณ์มีความผันผวนเท่านั้น

มาตรการล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นและมณฑลจี๋หลินในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อกิจการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยีที่มีฐานการผลิตขนาดใหญ่ในจีน โดยโรงงานหลายแห่งต้องปิดลงและหยุดการผลิตชั่วคราว เช่นบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ผู้ผลิตไอโฟนรายใหญ่ในจีน บริษัทผู้ผลิตรถยนต์โตโยต้าของญี่ปุ่น และโฟล์กสวาเกนของเยอรมนี

ผู้แทนบริษัทฟ็อกซ์คอนน์บอกกับผู้สื่อข่าวบีบีซีว่า มาตรการล็อกดาวน์ในครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตไอโฟนในจีนมากนัก เนื่องจากทางบริษัทมีโรงงานหลายแห่ง จึงจะปรับแผนเพิ่มการผลิตไปยังโรงงานในเมืองอื่น เช่นที่เมืองเจิ้งโจวซึ่งยังไม่มีการสั่งล็อกดาวน์ในขณะนี้

ส่วนโตโยต้าและโฟล์กสวาเกนซึ่งมีโรงงานประกอบรถยนต์ที่เมืองฉางชุนในมณฑลจี๋หลิน จำต้องหยุดการผลิตลงชั่วคราวและยังไม่ทราบว่าจะเปิดโรงงานได้อีกครั้งเมื่อใด ซึ่งทั้งสองบริษัทคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการจัดส่งสินค้าออกสู่ตลาดอย่างแน่นอน

368 Views