รัสเซียประกาศ “ถอนปฏิบัติการรบครั้งใหญ่” ในพื้นที่รอบกรุงเคียฟ และเมืองแชร์นีฮิฟที่กำลังถูกปิดล้อมทางภาคเหนือของยูเครน หลังคณะผู้แทนสองประเทศเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกีวันนี้

นายอเล็กซานเดอร์ โฟมีน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะผู้แทนเจรจาสันติภาพ กล่าวว่า การตัดสินใจลดปฏิบัติการทารทหารครั้งนี้มีขึ้นเพื่อ “เพิ่มความไว้วางใจระหว่างกัน” และเพื่อนำการเจรจาไปสู่การบรรลุ “เป้าหมายสูงสุด” ของการลงนามในข้อตกลงทวิภาคี

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้น หลังจากยูเครนระบุว่าจะยอมรับสถานะเป็นกลางในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องสำคัญของรัสเซีย เพื่อแลกกับการมีประเทศที่สามเป็นผู้รับประกันความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ยูเครน

สถานะเป็นกลางดังกล่าวหมายความว่า ยูเครนจะต้องไม่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรด้านการทหารใด ๆ เช่น องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต หรือการให้ชาติอื่นเข้ามาตั้งฐานทัพทหาร

คาดว่า โปแลนด์ อิสราเอล ตุรกี และแคนาดา อาจเป็นประเทศที่จะรับหน้าที่เป็นผู้รับประกันความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ยูเครน

คณะผู้แทนรัสเซียและยูเครนเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพที่นครอิสตันบูล เมื่อ 29 มี.ค.
คณะผู้แทนรัสเซียและยูเครนเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพที่นครอิสตันบูล เมื่อ 29 มี.ค.

ปัจจุบันดูเหมือนว่าปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียจะหยุดชะงักในพื้นที่รอบกรุงเคียฟ ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรระบุว่า กองทัพยูเครนประสบความสำเร็จในการผลักดันรัสเซียให้ถอยร่นไปในแนวรบหลายจุด อย่างไรก็ตามชี้ว่า รัสเซียยังคงเป็นภัยคุกคามอันตรายต่อกรุงเคียฟอยู่เนื่องจากมีความสามารถในการโจมตีสูง

ส่วนเจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่า ในวันนี้ เมืองแชร์นีฮิฟยังคงถูกโจมตีจากรัสเซียอยู่ โดยนายกเทศมนตรีเมืองระบุว่า มีชาวเมืองราว 400 คน เสียชีวิตนับแต่สงครามเริ่มขึ้น และคาดว่ามีพลเรือนติดค้างอยู่ในเมืองราว 140,000 คน

457 Views