รัฐบาลรัสเซียส่งคำเตือนอย่างเป็นทางการดังกล่าวมายังกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในรูปแบบของหนังสือทางการทูต (diplomatic note) ผ่านสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตัน โดยเอกสารความยาว 2 หน้ากระดาษดังกล่าวระบุว่า การที่สหรัฐฯ และชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต จัดส่งอาวุธให้กับยูเครนนั้น เท่ากับ “เติมเชื้อไฟ” ให้กับความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่ และอาจนำไปสู่สิ่งที่บรรดานักการทูตรัสเซียเรียกว่า ผลของการกระทำที่ไม่อาจจะคาดเดาได้

คำเตือนดังกล่าวถูกส่งมาตั้งแต่วันอังคารที่ 12 เม.ย. ก่อนที่สหรัฐฯ จะประกาศให้ความช่วยเหลือทางทหารงวดใหม่แก่ยูเครน คิดเป็นมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งความช่วยเหลือครั้งนี้รวมถึงการจัดส่งอาวุธประเภทปืนใหญ่โจมตีระยะไกลหลายชนิด เช่นปืนใหญ่วิถีโค้ง (howitzer) ที่สหรัฐฯ จัดหาให้กับยูเครนเป็นครั้งแรก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสู้รบแก่กองทัพยูเครนให้ทัดเทียมกับกองทัพรัสเซีย

เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ ผู้หนึ่ง แสดงความเห็นว่า การส่งคำเตือนอย่างเป็นทางการจากรัสเซียนั้น เท่ากับว่ารัฐบาลรัสเซียยอมรับ เรื่องที่ความช่วยเหลือทางทหารจากนาโตมีประสิทธิภาพในการติดเขี้ยวเล็บให้กับยูเครนจริง

อาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ งวดนี้ ในส่วนที่ได้จัดส่งไปเป็นรอบแรก จะเดินทางไปถึงยูเครนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจะประจวบเหมาะกับที่กองกำลังรัสเซียยกระดับการโจมตีภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกหนักหน่วงขึ้น

ผู้นำยูเครนเตือนโลกให้เตรียมรับมือภัยนิวเคลียร์

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเตือนให้ทั่วโลกเตรียมพร้อม เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตียูเครน

ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น นายเซเลนสกีบอกว่าเขารู้สึกเป็นกังวลกับคำเตือนจากผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ของสหรัฐฯ ที่ระบุว่ารัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี (tactical nuclear weapon) หรืออาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็กที่สร้างความเสียหายในวงจำกัดกับยูเครน

“ไม่ใช่แค่ตัวผม…แต่ทั่วโลกและทุกประเทศควรจะต้องเป็นกังวลด้วยเช่นกัน เพราะมันอาจไม่ใช่ข่าวลวงแต่เป็นความจริงก็เป็นได้ เราไม่ควรจะหวาดกลัว แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือ” ผู้นำยูเครนกล่าว

เมื่อเดือนที่แล้วนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียแถลงว่า รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ก็ต่อเมื่อมีภัยคุกคามการดำรงอยู่ของประเทศเท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่าไม่ได้ปฏิเสธเรื่องความเป็นไปได้ที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์กับประเทศอื่น

322 Views