เว็บไซต์ นสพ.Nikkei Asian Review ของญี่ปุ่น เสนอข่าว Thai residency visa draws Hong Kongers after China security law ระบุว่า ไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ชาวฮ่องกงฐานะดีที่ไม่ต้องการอยู่ภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของจีน ประสงค์จะใช้เป็นที่พำนักระยะยาว โดย สมชัย สูงสว่าง (Somchai Soongswang) ประธานของ Thailand Privilege Card ซึ่งเป็นตัวแทนจัดหาวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่มีฐานะดีและต้องการพักอาศัยในประเทศไทย เปิดเผยว่า จำนวนชาวฮ่องกงที่ถือวีซ่าประเภทนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 380 ในรอบ 9 เดือน
ซึ่งในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2563 จำนวนชาวต่างชาติที่ถือวีซ่าผู้มีฐานะดี เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 หรือจาก 1,761 คน เป็น 10,363 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่มากที่สุด ร้อยละ 38 ขณะที่ชาวญี่ปุ่นตามมาเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ร้อยละ 9 และสหรัฐอเมริกากับสหราชอาณาจักรมีอยู่ชาติและกลุ่มประเทศละร้อยละ 7 ทั้งนี้ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่ออกโดยรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ จะลิดรอนเสรีภาพ ซึ่งเป็นดินแดนที่มีอิสระในการปกครองตนเองพอสมควรและยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินแห่งหนึ่งของโลกด้วย
สมชัย กล่าวต่อไปว่า ไทยกำลังแข่งกับอีกหลายประเทศ เช่น กลุ่มสหราชอาณาจักร (อังกฤษ เวลส์ สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ) ออสเตรเลีย ในการเปิดรับผู้อพยพชาวฮ่องกง ซึ่งไทยนั้นมีจุดเด่นอยู่ 3 ด้านคือ 1.สภาพอากาศที่ใกล้เคียงกัน 2.มีวัฒนธรรมที่เป็นมิตร และ 3.มีความสะดวกในการทำธุรกิจ นอกจากนี้ การออกวีซ่าสำหรับผู้มีฐานะดีใช้เวลาเพียง 15 วันเท่านั้น หากบุคคลที่ยื่นขอผ่านการตรวจสอบประวัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วไม่มีปัญหาใดๆ
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า อังกฤษและออสเตรเลียเป็น 2 ชาติที่ประณามการออกกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของจีน และเสนอเปิดรับชาวฮ่องกงให้ไปอยู่ในประเทศของตน โดยกลุ่มสหราชอาณาจักรประกาศว่าชาวฮ่องกง 3 ล้านคนมีสิทธิในการตั้งถิ่นฐานและในอนาคตยังสามารถกลายเป็นพลเมือง ขณะที่ออสเตรเลีย เสนอให้ต่ออายุวีซ่าของชาวฮ่องกงได้นานที่สุด 5 ปี ซึ่งจะนำไปสู่การมีถิ่นฐานถาวร สำหรับชาวฮ่องกงจำนวน 10,000 คน
สำหรับวีซ่าของชาวต่างชาติฐานะดี หรือ Elite Card นั้นค่าสมัครอยู่ที่ 5 แสน-2 ล้านบาท เมื่อสมัครแล้วจะได้สิทธิประโยชน์มากมาย เช่น มีรถลีมูซีนไปรับที่สนามบิน จัดช่องตรวจหนังสือเดินทางเป็นพิเศษแยกต่างหาก บริการช่วยเหลือในกระบวนการรายงานตัวต่อทางการไทยทุกๆ 90 วัน ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งเป้าจะมีสมาชิก 10,500 คน เพิ่มขึ้น 500 คน แต่ยังมีเป้าหมายด้านรายได้อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทยซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) มีรายได้สำคัญจากนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน ในปี 2562 มีชาวต่างชาติไปเยือนประเทศไทยมากถึง 39.8 ล้านคน หรือกว่าครึ่งของประชากรไทยทั้งประเทศ แต่มาตรการสกัดโรคระบาดของรัฐบาลไทย รวมถึงการปิดพรมแดน อีกด้านหนึ่งหมายถึงการสูญเสียนักท่องเที่ยวต่างชาติในขณะที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย อนึ่ง ผลสำรวจของ U.S. News & World Report ระบุว่า ไทยเป็นหนึ่งในปลายทางสำคัญที่โดดเด่นด้านการเริ่มต้นธุรกิจ มีค่าครองชีพไม่สูงนัก และควบคุมโรคระบาดได้เป็นอย่างดี