“มีเราสามคนอยู่ในชีวิตสมรสนี้ มันก็เลยแออัดไปหน่อย”
นี่คือถ้อยคำที่ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ประทานสัมภาษณ์ในรายการพาโนรามา (Panorama) ของบีบีซีเมื่อปี 1995 ซึ่งได้กลายเป็นประโยคอันโด่งดังที่บอกเล่าถึงปัญหาในชีวิตคู่ของพระองค์กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารอังกฤษ และได้นำไปสู่การที่ทั้งสองพระองค์ทรงหย่าขาดจากกันในเวลาต่อมา
บทสัมภาษณ์ดังกล่าวมีผู้ติดตามชมเกือบ 23 ล้านคน และได้นำโศกนาฏกรรม ตลอดจนความเปลี่ยนแปลงมาสู่ราชวงศ์วินด์เซอร์ในหลายด้าน
25 ปีให้หลัง บทสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้ได้กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอีกครั้ง
คราวนี้เป็นการตั้งคำถามถึงจรรยาบรรณของบีบีซีและผู้ผลิตรายการในขณะนั้นเกี่ยวกับวิธีการที่ใช้โน้มน้าวใจให้เจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงยอมประทานสัมภาษณ์ถึงเรื่องราวส่วนพระองค์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในหมู่สมาชิกราชวงศ์อังกฤษ
บีบีซีเปิดการสอบสวนอิสระ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บีบีซีได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะ “ค้นหาความจริง” เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยประกาศเปิดการสอบสวนอิสระต่อข้อกล่าวหาว่านายมาร์ติน บาเชียร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีและผู้ดำเนินรายการพาโนรามาในขณะนั้น ได้ปลอมแปลงเอกสารความเคลื่อนไหวในบัญชีธนาคาร เพื่อทำให้เจ้าหญิงไดอานาทรงเข้าใจผิดคิดว่าข้าราชบริพารในพระองค์ถูกว่าจ้างให้ขายข้อมูลเพื่อสอดแนมพระองค์

“ลอร์ด ไดสัน คือบุคคลที่โดดเด่นและได้รับความเคารพอย่างสูงซึ่งจะเป็นผู้นำกระบวนการสอบสวนอย่างละเอียด” นายเดวี กล่าวถึง ลอร์ด จอห์น ไดสัน อดีตผู้พิพากษาศาลสูงสุดของอังกฤษที่เกษียณอายุไปเมื่อปี 2016
และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำการสอบสวนอิสระครั้งนี้
โดยการสอบสวนจะมุ่งสืบหาความจริงเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น และนายบาเชียร์ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการนำเสนอข่าวของบีบีซีในขณะนั้นหรือไม่ และการกระทำของเขามีอิทธิพลต่อการที่เจ้าหญิงไดอานาทรงตัดสินพระทัยให้สัมภาษณ์กับบีบีซีมากน้อยเพียงใด
สำนักพระราชวังเคนซิงตันระบุในแถลงการณ์ว่า เจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ ทรงเห็นว่าการเปิดการสอบสวนอิสระของบีบีซีเป็นการ “ดำเนินมาถูกทิศทางแล้ว” ขณะที่คนใกล้ชิดของเจ้าชายแฮร์รี ดยุคแห่งซัสเซกซ์ เปิดเผยว่า พระองค์ทรง “รับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น” ในการสอบสวนของบีบีซี หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ทรงเคลื่อนไหวสนับสนุนพระเชษฐาที่ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปก่อนหน้านี้
โดยแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเจ้าชายแฮร์รีระบุว่า “คุณไม่จำเป็นต้องมีแถลงการณ์ต่อสาธารณะเพื่อให้ทราบถึงความรู้สึกส่วนพระองค์ ผู้คนต่างรู้ดีว่าพระมารดาทรงมีความหมายต่อพระองค์มากเพียงใด…ที่ผ่านมา พระองค์ได้เคยตรัสอย่างกล้าหาญเกี่ยวกับความสูญเสียและความโทมนัส ตลอดจนผลกระทบอย่างใหญ่หลวงที่เรื่องนี้มีต่อพระองค์”
บีบีซีถูกกล่าวหาว่าอย่างไร
การสอบสวนครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ย. เอิร์ล สเปนเซอร์ พระอนุชา (น้องชาย) ของเจ้าหญิงไดอานาได้ส่งจดหมายถึงนายเดวี และเรียกร้องให้มีการสอบสวนเรื่องนี้ โดยชี้ว่ามีการใช้วิธี “ฉ้อฉลอย่างชัดเจน” เพื่อให้ได้การสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้
เอิร์ล สเปนเซอร์ ระบุในจดหมาย ซึ่งหนังสือพิมพ์เดลีเมลนำออกเผยแพร่ว่า นายบาเชียร์ได้ใช้เอกสารความเคลื่อนไหวในบัญชีธนาคารที่ปลอมแปลงขึ้นเพื่อทำให้คิดว่าข้าราชบริพารระดับสูง 2 คนของเจ้าหญิงไดอานาได้รับการว่าจ้างจากหน่วยงานด้านความมั่นคงของอังกฤษให้ป้อนข้อมูลเกี่ยวกับพระองค์ต่อหน่วยงานเหล่านี้
เอิร์ล สเปนเซอร์ ระบุใจจดหมายว่า “ถ้าผมไม่ได้เห็นเอกสารพวกนี้ ผมก็คงจะไม่แนะนำนายบาเชียร์ให้กับพี่สาวของผม”
ในการให้สัมภาษณ์กับเดลีเมลอีกชิ้น เอิร์ล สเปนเซอร์ ได้กล่าวหานายบาเชียร์ว่า ได้กล่าวอ้างเรื่องเท็จและข้อความเชิงหมิ่นประมาทเกี่ยวกับสมาชิกราชวงศ์ระดับสูงหลายครั้งในระหว่างที่เข้าพบกับเขาเพื่อสร้างความไว้วางใจให้ได้เข้าถึงเจ้าหญิงไดอานา
นายจอนนี ไดมอนด์ ผู้สื่อข่าวสายราชสำนักของบีบีซีกล่าวว่า บันทึกที่เอิร์ล สเปนเซอร์ ระบุว่าได้ทำไว้กับนายบาเชียร์ 2 เดือนก่อนหน้าการสัมภาษณ์นั้น “น่าตกใจ” เพราะดูเหมือนมันจะเผยให้เห็นว่านายบาเชียร์ “ปั่นคำโกหกครั้งแล้วครั้งเล่าเกี่ยวกับสมาชิกราชวงศ์ ข้าราชสำนัก ด้วยความพยายามให้ได้รับความไว้วางใจจากเอิร์ล สเปนเซอร์และพี่สาวของเขา”
คำกล่าวอ้างของนายบาเชียร์ที่เอิร์ล สเปนเซอร์ ระบุได้แก่ จดหมายส่วนพระองค์ของเจ้าหญิงไดอานาถูกเปิดอ่าน รถยนต์ส่วนพระองค์ถูกติดเครื่องติดตาม และโทรศัพท์ถูกลอบดักฟัง
นอกจากนี้ก็ยังมีการกล่าวอ้างว่าองครักษ์กำลังวางแผนร้ายต่อพระองค์ และพระสหายสนิทกำลังทรยศด้วยการเอาเรื่องราวของพระองค์ไปขายให้กับสื่อ
บีบีซี ระบุว่า นายบาเชียร์ ซึ่งปัจจุบันอายุ 57 ปี และดำรงตำแหน่งบรรณาธิการข่าวศาสนา ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นต่อข้อกล่าวหาของเอิร์ล สเปนเซอร์ได้ เนื่องจากกำลังพักฟื้นหลังจากการผ่าตัดหัวใจและอาการแทรกซ้อนจากโรคโควิด-19
สัมภาษณ์เขย่าราชบัลลังก์อังกฤษ
บทการสัมภาษณ์ในรายการพาโนรามาในปี 1995 มีขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหญิงไดอานาและเจ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ พระสวามีอยู่ในจุดตกต่ำ โดยทั้งสองได้แยกกันอยู่ แต่ยังไม่หย่าขาดจากกันอย่างเป็นทางการ
ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ นายบาเชียร์ทูลถามเจ้าหญิงไดอานาว่าทรงคิดว่านางคามิลลา พาร์กเกอร์-โบลส์ (ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ พระชายาองค์ปัจจุบันของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์) คือปัจจัยที่ทำให้ชีวิตคู่ของพระองค์กับพระสวามีต้องล้มเหลวหรือไม่ พระองค์ทรงตอบว่า “มีเราสามคนอยู่ในชีวิตสมรสนี้ มันก็เลยแออัดไปหน่อย”ส่งผลให้ในเวลาต่อมาสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ และทรงแนะนำให้ทั้งสองพระองค์หย่าขาดจากกัน

ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ เจ้าหญิงไดอานายังทรงเปิดเผยเรื่องราวส่วนพระองค์ต่าง ๆ ที่ถือเป็นการแหวกธรรมเนียมปฏิบัติของสมาชิกราชวงศ์ที่มีความอนุรักษนิยมสูงของอังกฤษ เช่น การเล่าถึงเรื่องที่ทรงเป็นโรคซึมเศร้า โรคบูลีเมีย และการทำร้ายตัวเอง ตลอดจนเรื่องการมีความสัมพันธ์นอกสมรสกับพันตรีเจมส์ ฮิวอิตต์ อดีตครูสอนขี่ม้าของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รีนอกจากนี้ ยังทรงแสดงความกังขาถึงความเหมาะสมของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในฐานะกษัตริย์ของอังกฤษ ขณะเดียวกันก็ทรงยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่ทรงเห็นพระองค์เองเป็นราชินีของอังกฤษเช่นกัน เนื่องจากทรงไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนในราชสำนัก
ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ สิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ปี 1997 หลังจากถูกบรรดาปาปารัสซีขับขี่รถจักรยานยนต์ตามไล่ล่าถ่ายภาพพระองค์