พายุหิมะซึ่งเรียกว่า นอร์อีสเตอร์ (Nor’easter) ได้พัดเข้ารัฐเวอร์จิเนียและรัฐนอร์ทแคโรไลนาก่อนหน้านี้และทำให้เกิดหิมะตกหนัก ก่อนที่จะเคลื่อนตัวขึ้นไปทางเหนือตามรัฐทางชายฝั่งด้านมหาสมุทรแอตแลนติคที่มีประชาชนกว่า 50 ล้านคน และจะพัดออกไปทางนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเสตส์ ในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น
บ็อบ โอราเวค นักอุตุนิมวิทยาประจำศูนย์พยากรณ์อากาศ สำนักงานรายงานสภาพอากาศแห่งชาติ เมืองคอลเลจพาร์ค รัฐแมรีแลนด์ ระบุว่า พายุดังกล่าวเคลื่อนตัวด้วยความเร็วต่ำ จึงคาดว่าหิมะจะไม่ตกติดต่อกันเป็นเวลานาน
เขายังคาดการณ์ด้วยว่า จะมีหิมะตกหนา 18-24 เซนติเมตรบริเวณเมืองที่เป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ททางตอนกลางของรัฐเพนซิลเวเนียไปจนถึงทางเหนือของรัฐนิวยอร์ก ขณะที่พื้นที่บางส่วน รวมถึงนครนิวยอร์ก อาจมีหิมะตกหนากว่า 30 เซนติเมตร
เมื่อวันอังคาร ทางการของมหานครนิวยอร์กเริ่มเตือนประชาชนให้ระวังอันตรายจากการเดินทาง และเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้ถนนในช่วงนี้ โดยบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก กล่าวว่า มหานครนิวยอร์กอาจเผชิญกับพายุหิมะครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบสองปี
เดอ บลาซิโอ ยังกล่าวด้วยว่า โรงเรียนในนครนิวยอร์กที่เพิ่งกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนในชั้นเรียนหลังปิดไปเป็นช่วงสั้น ๆ จากการระบาดของโควิด-19 กำลังจะกลับไปปิดอีกครั้งในวันพฤหัสบดี เนื่องจากอาจมีหิมะตกหนัก
สำนักงานรายงานสภาพอากาศแห่งชาติยังระบุด้วยว่า หิมะอาจลดความสามารถในการมองเห็นและทำให้การเดินทางลำบากมากขึ้น ในขณะที่กระแสลมแรงถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอาจโค่นต้นไม้และทำลายสายไฟ อาจทำให้เกิดไฟดับได้ นอกจากนี้ อาจเกิดฝนน้ำแข็งในรัฐนอร์ทแคโรไลนาและทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐเวอร์จีเนีย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำแข็งหนาราว 0.64 เซนติเมตรบนพื้นถนน