รัฐบาลไทยมีแผนจะฉีดวัคซีนไฟเซอร์โควิด-19 จำนวน 1.5 ล้านโดสแก่ผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีและสตรีมีครรภ์ โดยจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อสูง ปริมาณที่ได้รับบริจาคให้กับประเทศไทยโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ตามรายงานของ Nation Thailand บันทึกที่รั่วไหลแสดงให้เห็นว่าปริมาณยาที่คาดว่าจะมาถึงราชอาณาจักรในเดือนนี้ เพื่อแจกจ่ายในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม

เป็นที่เข้าใจกันว่าบันทึกที่รั่วไหลประกอบด้วยรายงานการประชุมที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าวว่าไม่ควรให้ยาไฟเซอร์แก่แพทย์ เนื่องจากการทำเช่นนั้นจะบ่งบอกว่าวัคซีน Sinovac ที่พวกเขาได้รับแล้วนั้นมีคุณภาพด้อยกว่า

“มันจะบ่งบอกว่าคุณภาพของวัคซีน Sinovac ที่มอบให้ก่อนหน้านี้นั้นต่ำ และเป็นการยากสำหรับเราที่จะหาข้อแก้ตัวที่สมเหตุสมผล”

ความคิดเห็นดังกล่าวได้กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย ทำให้ชาวเน็ตไม่พอใจ เป็นที่เข้าใจกันว่าบุคลากรทางการแพทย์ในแนวหน้าอย่างน้อย 2 คนติดเชื้อโควิด-19 ทั้งๆ ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคทั้งสองโดสแล้ว

นอกจากนี้ ในรายงานการประชุมยังพบว่าผลข้างเคียงจากวัคซีนไฟเซอร์มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ได้แก่ มีไข้ คลื่นไส้ หนาวสั่น และปวดศีรษะ นาทียังยืนยันว่าปริมาณของไฟเซอร์จะถูกเก็บไว้ที่อุณหภูมิ -60° ถึง -90° องศาเซลเซียส และช่วงเวลา 3 สัปดาห์จะถูกทิ้งไว้ระหว่างขนาดยาครั้งแรกและครั้งที่สอง

ในขณะเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่ารายงานการประชุมเป็นความจริง แต่ความคิดเห็นที่แสดงออกมาเป็นเพียงความคิดเห็นของ 1 คนเท่านั้น และยืนยันว่ายังไม่มีการตัดสินใจว่าจะใช้ปริมาณไฟเซอร์ที่บริจาคไปอย่างไร

615 Views