กรุงเทพฯ (รอยเตอร์) – การค้ายาเสพติดสังเคราะห์ในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีที่แล้ว โดยทางการจับกุมยาบ้าได้มากกว่า 1 พันล้านเม็ด องค์การสหประชาชาติ ระบุเมื่อวันจันทร์
สำนักงานปราบปรามยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระบุในรายงาน ว่าราคาของเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าซึ่งเป็นยาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในภูมิภาคนั้นลดลงในปีที่แล้ว แม้ว่าจะมีการสกัดกั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่ามีอุปทานเพิ่มขึ้น
เจเรมี ดักลาส ผู้แทน UNODC ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก กล่าวว่า “ภูมิภาคนี้กำลังเล่นยาบ้าอย่างแท้จริง และฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ภูมิภาคนี้จะเริ่มพิจารณานโยบายอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหา”
ในขณะที่การจับกุมยาบ้าที่ตกผลึก ของเหลวและผงลดลงในปี 2564 การยึดแท็บเล็ตกลับพุ่งสูงขึ้น รายงานระบุ
โดยรวมแล้ว ทางการในเอเชียสามารถจับกุมยาบ้าได้ 171.5 ตันในปี 2564 เพิ่มขึ้นจาก 170 ตันในปีที่แล้ว กว่า 90% ของการจับกุมยาเม็ดคุมกำเนิดเกิดขึ้นในประเทศไทย ลาว เมียนมาร์ และกัมพูชา ซึ่งใช้ทั้งเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและโดยคนงาน
“มีการจับกุมเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีผลกระทบต่อตัวธุรกิจเอง กลุ่มอาชญากรได้เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ” ดักลาสกล่าว
รายงานยังระบุถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเส้นทางการค้ามนุษย์จากศูนย์กลางการผลิตยาบ้าในรัฐฉานของเมียนมาร์
ลาวจดทะเบียนการสกัดกั้นยาบ้าเพิ่มขึ้นกว่า 660% ในปี 2564 เนื่องจากการดำเนินการต่อต้านยาเสพติดที่เพิ่มขึ้นในไทยและทางตอนใต้ของจีนผลักดันให้องค์กรอาชญากรรมขยายการดำเนินงานในภาคเหนือของลาว
ลาวเป็น “เป้าหมายที่อ่อนแอสำหรับผู้ค้ามนุษย์” ดักลาสกล่าว
รายงานระบุบันทึกการจับกุมคีตามีน 2.7 ตันในกัมพูชา เกือบ 15 เท่าของปริมาณที่ยึดได้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมารวมกัน
