วันที่ 26 พ.ค. เซาท์ ไชนา มอร์นิง โพสต์รายงานว่า นายสแตนลีย์ โฮ มหาเศรษฐีเจ้าของเครือข่ายธุรกิจกาสิโนที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียบนเกาะมาเก๊า เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 98 ปี ที่โรงพยาบาลและศูนย์บำบัดผู้ป่วยฮ่องกง
ตระกูลโฮที่เหลือนั้นประกอบด้วย บุตร 15 คน (จากทั้งหมด 17 คน) จากภรรยาทั้งหมด 4 คน ในจำนวนนี้ ยังมีชีวิตอยู่ 3 คน ขณะที่นางแพนซี โฮ บุตรสาวคนโตสุดของตระกูล ระบุว่า แม้ทางครอบครัวจะทราบมาก่อนแล้วว่าวันนี้จะมาถึง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เศร้าเสียใจน้อยลง
ด้านธุรกิจบ่อนกาสิโนของตระกูลโฮนั้นสร้างรายได้มหาศาลคิดเป็นครึ่งหนึ่งของรายได้จากเงินภาษีของสภาบริหารมาเก๊า ส่งผลให้เจ้าสัวโฮนั้นเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของเอเชียติดต่อกันกว่าครึ่งศตวรรษ มีทรัพย์สิน 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2 แสนล้านบาท เมื่อปี 2561
นายสจวร์ต เหลียง ประธานสมาคมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกง กล่าวว่า เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของฮ่องกง โดยเจ้าสัวโฮเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานสมาคม และทำงานอย่างมุ่งมั่น ไม่หวาดเกรงและท้อถอยเพื่อประโยชน์ของฮ่องกง แม้ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากหน่วยงานรัฐ
เจ้าสัวโฮ ยังเป็นที่รู้จักของชาวฮ่องกงโดยทั่วไปในฐานะผู้บริจาคเงินช่วยเหลือสังคมหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ จนชื่อของเจ้าสัวผู้นี้ถูกนำไปตั้งชื่อทั้งในพิพิธภัณฑ์ 12 แห่ง โรงพยาบาล และศูนย์กีฬา ทั้งในฮ่องกงและมาเก๊า
นอกจากนี้ เจ้าสัวโฮ ยังเคยสร้างความฮือฮาอย่างการชนะประมูลเห็ดทรัฟเฟิลขาวที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปด้วยราคากว่า 10 ล้านบาท และซื้อโบราณวัตถุที่ถูกขโมยมาจากพระราชวังฤดูร้อนเก่าของจีนด้วยราคากว่า 284 ล้านบาท เพื่อนำกลับไปคืนให้กับรัฐบาลจีนด้วย
มหาเศรษฐีผู้นี้ยังเคยเป็นสมาชิกคณะที่ปรึกษาด้านการเมืองให้กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือซีพีพีซีซีด้วย โดยแถลงการณ์ของทางคณะเผยแพร่ทางซีซีทีวี สื่อทางการจีน ระบุถึงการเสียชีวิตของนายแสตนลีย์ ว่าเป็นนักธุรกิจที่มีเลือดรักชาติแรงกล้า
นายอัลลัน ซีแมน ประธานเครือธุรกิจ วินน์ มาเก๊า หนึ่งในคู่แข่งทางธุรกิจของเจ้าสัวคนดัง กล่าวว่า ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย เจ้าสัวโฮเป็นบุคคลที่เป็นเสมือนส่วนหนึ่งของฮ่องกง และอุตสาหกรรมกาสิโนของมาเก๊า
นายซีแมน ระบุว่า เจ้าสัวเป็นคนที่ใจดีและมีพลังล้นเหลือ ทั้งยังมีบุคลิกที่มีสเน่ห์ โดยชื่นชอบการเต้นรำเป็นพิเศษ ซึ่งตนจำได้ว่าหากมีงานเลี้ยงที่ไหน เจ้าสัวกับภริยาก็จะออกไปเต้นรำอยู่กลางเวทีทุกครั้ง
ที่มา : ข่าวสด