อเมริกาเกิดระบาดหนักทั่วประเทศ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นวันละกว่า 43,000 ราย ทำลายสถิติใหม่หลังผ่อนคลายมาตรการ ศูนย์กลางการระบาดขยับไปที่ฟลอริดา เท็กซัส และแอริโซนา
ในช่วงต้นของการติดเชื้อในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น มีความรุนแรงในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน โดยมีศูนย์กลางการระบาดหลักอยู่ที่รัฐนิวยอร์กและบริเวณใกล้เคียง ซึ่งผู้ติดเชื้อได้รับเชื้อมาจากทวีปยุโรปเป็นส่วนใหญ่ ต่อมาสามารถควบคุมการระบาดได้ จำนวนผู้ป่วยค่อยๆลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนการติดเชื้อที่รัฐอื่นยังมีไม่มากนัก แต่ละรัฐจึงได้มีมาตรการในการผ่อนคลายกิจกรรมต่างๆมากขึ้น ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างเดิมตามปกติโดยไม่ได้มีมาตรการป้องกันส่วนบุคคลหรือสวมใส่หน้ากากอนามัยมากนัก หลังจากนั้นมีเหตุการณ์ที่น่าเป็นห่วงที่พบว่าการติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้เพิ่มขึ้นสูงขึ้นอย่างมากและรวดเร็ว ตั้งแต่ ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกับที่พบในเดือนเมษายน แล้วเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างก้าวกระโดด จนทำสถิติสูงสุดรายวันอย่างต่อเนื่องทุกวันแล้ว
นอกจากนี้ประเด็นที่น่าเป็นห่วงมาก คือ พบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงมากขึ้นในรัฐที่มีประชากรมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส ฟลอริดา ที่เส้นกราฟเป็นขาขึ้นชัดเจน โดยศูนย์กลางการระบาดในช่วงนี้ อยู่ที่รัฐฟลอริดา เท็กซัส และแอริโซนา ซึ่งสถานการณ์น่าเป็นห่วงมาก ทั้งนี้รัฐที่ได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายแล้วได้ระงับหรือชะลอมาตรการผ่อนคลายนี้ และหลายรัฐได้เริ่มกลับมาใช้มาตรการในการควบคุมมากขึ้นอีก เช่น รัฐฟลอริดาและเท็กซัสได้กลับมาปิดบาร์และควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการร้านอาหารอีกครั้งหลังจากที่ให้เปิดได้ในช่วงก่อนหน้านี้