วันที่ 24 ก.ค. เดลีเมล์ รายงานกรณีสลดที่เป็นอุทาหรณ์ใน สหรัฐอเมริกา เมื่อหญิงสาวในช่วงอายุ 20 ปีในรัฐเท็กซัส ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน ก่อนแพร่กระจายไวรัสมรณะให้ปู่วัยราว 80 ปี และลงเอยด้วยความสูญเสียที่นำมาซึ่งความโศกเศร้าของคนในครอบครัว
นายแพทย์โจเซฟ ชาง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพาร์กแลนด์ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เปิดเผยกรณีดังกล่าวว่า หญิงสาวไปงานปาร์ตี้กับเพื่อน และได้รับเชื้อโควิด-19 มาโดยไม่รู้ตัว ต่อมาหญิงสาวซึ่งยังไม่มีอาการใดๆ เดินทางไปเยี่ยมปู่ และไม่นานทั้งคู่ก็เริ่มป่วย
“หลานสาวที่แพร่เชื้อโควิดให้กับยายของเธอ แอดมิตเข้าแผนกไอซียูและต้องใส่ท่อช่วยหายใจ อีก 10 วันถัดมาหญิงสาวฟื้นตัว แต่ปู่ของเธอจากไปเพียงวันเดียวก่อนที่หลานสาวจะตื่นขึ้นมา” นพ.ชางกล่าว และว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้แค่ทำให้คนในครอบครัวใจสลายเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความรู้สึกของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลซึ่งพยายามอย่างยิ่งที่จะช่วยชีวิตผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด
นพ.ชางยังระบุอีกว่า โรงพยาบาลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นมากกว่าครึ่งหนึ่งของเดือนมิ.ย.และสูงกว่า 200% ของจำนวนผู้ป่วยในเดือนพ.ค. สำหรับยอดผู้ติดเชื้อสะสมในรัฐเท็กซัสเพิ่มเป็นอย่างน้อย 351,600 คน และมากกว่า 4,300 รายเสียชีวิต