การปรากฎตัวของพัสดุปริศนาถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ หลังมีรายงานว่า พัสดุปริศนาถูกส่งไปอย่างน้อย 6 รัฐ ในอเมริกา และเมื่อเปิดพัสดุออกดู พบว่าสิ่งของภายในกลับเป็นเมล็ดพืช แทนที่จะเป็นสิ่งของที่ถูกระบุไว้หน้าหีบห่อ ด้านกระทรวงเกษตรของสหรัฐ (USDA) จึงต้องรีบออกประกาศเตือนประชาชน ห้ามนำเมล็ดปริศนาไปเพาะปลูก ขณะเดียวกันได้มีการประสานงานกับกรมศุลกากรและด่านตรวจแดนสหรัฐฯในการตรวจสอบแหล่งที่มาของพัสดุแล้ว
ทางด้านหน่วยงานสุขภาพสัตว์และพืชแห่งสหราชอาณาจักร (APHA) ก็ได้ออกมาประกาศเตือนประชาชนและร้องขอให้ประชาชนแจ้งเจ้าหน้าที่โดยทันที หลังชาวอังกฤษเริ่มได้รับพัสดุในลักษณะเดียวกัน โดยระบุเพิ่มเติมว่า ทางการกำลังเร่งตรวจสอบแหล่งที่มาของพัสดุและพันธุ์เมล็ดพืชอย่างละเอียด เนื่องจากมีความกังวลว่าเมล็ดพืชต่างถิ่นปริศนาอาจจะสร้างความเสียหายต่อระบบชีวภาพท้องถิ่นได้ในอนาคต หากมีการนำไปเพาะปลูกโดยพลการ
เบื้องต้น หน่วยงานให้บริการตรวจสอบสุขภาพพืชและสัตว์ของสหรัฐฯ (APHIS) ออกคำสั่งให้หน่วยงานของแต่ละรัฐรวบรวมเมล็ดพืชทั้งหมดเพื่อทำการตรวจสอบ จนสามารถระบุพันธุ์พืชปริศนาได้อย่างน้อย 14 ชนิด อาทิ เมล็ดผักบุ้ง และ เมล็ดมัสตาร์ด
ด้านกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ สันนิษฐานว่า พัสดุปริศนาเหล่านี้เป็นเพียงการทำ “บรัชชิง” (brushing) ของร้านค้าในจีน โดยการส่งสินค้าราคาถูกไปให้ผู้รับที่ไม่ได้ทำการสั่งซื้อ เพื่อสร้างคำสั่งซื้อปลอม ก่อนจะสวมรอยเป็นผู้ซื้อและเขียนรีวิวสินค้าของตนเองในท้ายที่สุด
ขณะที่นายหวัง เหวิงปิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนออกมาแถลงต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ข้อมูลที่ระบุบนพัสดุอาจถูกปลอมแปลง จึงได้ร้องขอให้สหรัฐฯ ส่งคืนพัสดุทั้งหมดกลับมาตรวจสอบที่จีนแล้ว นอกจากนี้ นายหวังก็ได้ยืนยันว่า กรมไปรษณีย์ของจีนยืดมั่นในกฎระเบียบของสหภาพไปรษณีย์สากล (UPU) ว่าด้วยการขนส่งเมล็ดพันธุ์พืชอย่างเคร่งครัด
ที่มา:
ภาพ: USDA APHIS/Handout via REUTERS