วันที่ 26 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ปางช้างแม่แตง ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ พบช้างตัวหนึ่ง มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากช้างทั่วไป โดยมีขนค่อนข้างหนาและยาวปกคลุมทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหัว สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้พบเห็น และนักท่องเที่ยว จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “แมมมอธเมืองไทย” และมีผู้ถ่ายภาพนำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียกลายเป็นที่ฮือฮา
ทั้งนี้จากการสอบถามทราบว่าช้างตัวดังกล่าวคือ “พังยายบุญมา” อายุกว่า 70 ปี เป็นช้างเพศเมียที่อยู่กับปางช้างแห่งนี้มาตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อ 25 ปีที่แล้ว โดยเดิมเป็นช้างลากซุงทำไม้ที่จังหวัดสุโขทัยแล้วถูกปลดระวางตอนที่มีอายุประมาณ50 ปี ซึ่งปางช้างได้ซื้อมา ลักษณะเดิมไม่ได้มีขน ปกคลุมหนาและยาวเช่นนี้ แต่เพิ่งจะเริ่มมีเมื่อประมาณ 1-2 ปีที่ผ่านมานี้
ขณะที่จากการลงพื้นที่ปางช้างแม่แตงพบว่า “พังยายบุญมา” ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี รวมทั้งกำลังมีความสุขอย่างมากกับการเดินเล่นกินอาหารในทุ่งหญ้าของปางช้างพร้อมกับ “พังน้องใหม่” ตัวเมีย อายุ32ปี และ“พังน้องบุญศรี” ตัวเมีย อายุ2ปี ลูกและหลานของตัวเอง
ด้าน สพญ.พนิดา เมืองหงษ์ สัตวแพทย์ประจำปางช้างแม่แตง เปิดเผยว่า เดิม “พังยายบุญมา” ไม่ได้มีขนหนาและยาวอย่างที่เห็นปัจจุบัน โดยเหมือนช้างปกติทั่วไป แต่เพิ่งจะเริ่มหนาและยาวอย่างชัดเจนในช่วง 1-2 ปีมานี้
โดยเฉพาะในปีนี้ที่เห็นชัดเมื่อเปรียบเทียบกับภาพที่เคยถ่ายในอดีต ซึ่งจากการสันนิษฐาน เชื่อว่าปัจจัยน่าจะมาจากการเลี้ยงดูอย่างดีทั้งอาหารการกินและสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ ทำให้สุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ
นอกจากนี้สังเกตพบว่าควาญช้างที่ดูแล “พังยายบุญมา” มักจะไปขุดโคลนดำจากแหล่งที่อยู่ใกล้เคียงกับปางช้างมาผสมน้ำอาบและทาให้อยู่เป็นประจำทุกสัปดาห์ ส่วนช้างตัวอื่นจะทำเดือนละครั้ง ซึ่งโคลนดำนั้นอาจจะมีสารบางอย่างที่บำรุงคล้ายคนใช้แชมพูและครีมนวดสระผมจนทำให้ขนยาว ประกอบกับ“พังยายบุญมา“ไม่ค่อยมีพฤติกรรมเอาตัวไปถูกับต้นไม้ ขนจึงไม่ค่อยร่วง และหนายาวเช่นนี้ จากปกติทั่วไปที่ช้างจะมีขนหนาและยาวเฉพาะในช่วงแรกเกิดถึงประมาณ1-2ปีเท่านั้น
[/responsivevoice]
ที่มา : ข่าวสด