เมื่อ 11 ก.ย.63 สำนักข่าวต่างประเทศและบีบีซี รายงานเกิดเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ นายไรลี ฟรานซิสคาโต เจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญชาวบราซิล วัย 56 ปี ด้านชนเผ่าพื้นเมืองในป่าแอมะซอน ถูกยิงด้วยธนูเข้าที่อก จนเสียชีวิต ในพื้นที่ห่างไกล ในรัฐรอนโดเนีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศบราซิล เมื่อวันพุธที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา
เหตุร้ายแรงเกิดขึ้น ขณะ นายฟรานซิสคาโต และทีมเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปยังพื้นที่เพื่อพยายามสังเกตการณ์ติดตามชนกลุ่มพื้นเมืองกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในงานของสำนักงานชนเผ่าพื้นเมืองของรัฐบาล ซึ่งนายฟรานซิสคาโตได้ทำงานในสำนักงานนี้มายาวนานเพื่อพยายามช่วยรักษาชนเผ่าพื้นเมืองในป่าแอมะซอน โดยจากการเปิดเผยของผู้อยู่ในเหตุการณ์ ระบุว่า นายฟรานซิสคาโตและทีมเจ้าหน้าที่ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยคุ้มกันไปด้วย ได้ถูกระดมธนูโจมตี จนทำให้พยายามหาที่กำบังหลบลูกธนูอยู่ด้านหลังรถยนต์คันหนึ่ง แต่แล้วนายฟรานซิสคาโตได้ถูกลูกธนูดอกหนึ่งปักเข้าบริเวณหน้าอก เหนือหัวใจ
ตำรวจที่เผชิญกับเหตุการณ์ระทึกครั้งนี้กล่าวว่า นายฟรานซิสคาโตพยายามจะดึงลูกธนู และร้องด้วยความเจ็บปวด เขาพยายามวิ่งหนีไปได้ไกลประมาณ 50 เมตร ก่อนจะล้มลงและเสียชีวิต ขณะที่นายกาเบรียล อูชิดา ช่างภาพในพื้นที่ ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วย เผยกับนักข่าวเอเอฟพีว่า นายฟรานซิสคาโต ได้พยายามเข้าไปติดตามสังเกตการณ์ชนพื้นเมือง ที่รู้จักในชื่อ ‘Cautario River isolated group’ ซึ่งโดยปกติแล้ว ชนพื้นเมืองกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่รักสันติ แต่เหตุการณ์นี้ได้มีชายพื้นเมืองในกลุ่มนี้ 5 คน ร่วมกันโจมตีผู้ที่พวกเขาคิดว่าบุกรุกเข้ามาในพื้นที่
ด้านสมาคมป้องกันสิ่งแวดล้อม Kaninde Ethno-Environmental Defense ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงกำไรซึ่งนายฟรานซิสคาโต ช่วยก่อตั้งในช่วงทศวรรษ 1980 ชี้แจงเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงที่เกิดกับนายฟรานซิสคาโตว่า กลุ่มชนพื้นเมืองกลุ่มนี้ไม่มีความสามารถในการแยกแยะระหว่างคนที่มาจากโลกภายนอกว่า เป็นเพื่อนหรือศัตรู จนนำมาสู่เหตุการณ์เศร้าสลดครั้งนี้
ที่มา : ไทยรัฐ
