ข้อมูลจ้างงานไม่ดี แรงหนุนกลุ่มเทคโนโลยีหาย ฉุดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่ง ราคาน้ำมันก็ร่วงหลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ส่วนราคาทองคำบวกเป็นวันที่ 3 หลังเงินยูโรยังกดดันดอลลาร์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 10 กันยายน 2563 ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 405.89 จุด หรือราว 1.5% ปิดที่ 27,534.58 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 59.77 จุด หรือราว 1.8% ปิดที่ 3,339.19 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 221.97 จุด หรือราว 2% ปิดที่ 10,919.59 จุด
นอกจากนี้ ยังเกิดความไม่แน่นอนเรื่องการออกมาตรการเยียวยาโควิดรอบใหม่ของสหรัฐฯ ด้วย หลังจากเดโมแครตขวางการออกกฎหมายของรีพับลิกันในชั้นวุฒิสภา เพิ่มความเป็นไปได้ที่ว่า การออกกฎหมายฉบับนี้อาจต้องรอหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน
ด้านราคาน้ำมันลดลงในวันพฤหัสบดี หลังข้อมูลชี้ว่า น้ำมันดิบในคลังของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ ทำให้หลายฝ่ายยิ่งคาดหมายว่าจะเกิดอุปทานส่วนเกินในตลาด ท่ามกลางความกังวลเรื่องแนวโน้มความต้องการพลังงานที่อ่อนแอเพราะการระบาดของโควิด-19 สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 75 เซนต์ หรือราว 2% ไปอยู่ที่ 37.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 73 เซนต์ หรือราว 1.8% ไปอยู่ที่ 40.06 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาทองคำ เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันพฤหัสบดี หลังค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นอีก จากการคงนโยบายการเงินตามเดิมของธนาคารกลางยุโรป กดดันค่าเงินดอลลาร์ลดลงอีก 0.2% โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 0.5% ปิดที่ 1,964.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
[/responsivevoice]
ที่มา :