ไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีชาวอเมริกา ประกาศบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วย นายโจ ไบเดน เรื่องการหาเสียงในรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นรัฐสำคัญสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดี
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า ไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ประกาศในวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน 2563 ว่าจะบริจาคเงินอย่างน้อย 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3,129 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือในเรื่องการหาเสียงในรัฐฟลอริดา ของ นายโจ ไบเดน ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แข่งกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์
การตัดสินใจของนายบลูมเบิร์กเกิดขึ้นในขณะที่เหลือเวลาเพียง 51 วัน ก่อนจะถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยผลสำรวจต่างๆ แสดงให้เห็นว่า การต่อสู้ในรัฐสมรภูมิต่างๆ (battleground state) ที่อาจเป็นตัวตัดสินการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นไปอย่างสูสี
ขณะเดียวกัน ข้อได้เปรียบด้านการเงินของฝ่ายนายทรัมป์ที่มีเหนือกว่านายไบเดนค่อยๆ เลือนหลายไปแล้ว หลังจากพรรครีพับลิกันใช้จ่ายเงินจำนวนมากไปกับการหาเสียง ขณะที่ฝ่ายเดโมแครตสามารถระดมทุนได้มากมายหลังจากการเลือกตั้งภายในเพื่อคัดสรรตัวแทนพรรคจบลง
ทีมหาเสียงของนายทรัมป์ และคณะกรรมการแห่งชาติของพรรครีพับลิกัน เผยเมื่อวันพุธที่ 9 กันยายน ว่า พวกเขาระดมทุนได้ทั้งหมด 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม แต่ทีมหาเสียงของนายไบเดนระดมทุนได้มากถึง 364.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำลายสถิติสูงสุด “ไมค์ บลูมเบิร์ก สัญญาจะช่วยเหลือในการเอาชนะนายทรัมป์ และสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นในรัฐสมรภูมิ” นายเควิน ชีคีย์ ที่ปรึกษาของนายบลูมเบิร์กกล่าว และเสริมด้วยว่า การบริจาคของอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก จะทำให้เดโมแครตและทีมหาเสียงของนายไบเดนสามารถลงทุนได้มากขึ้นในรัฐสำคัญต่างๆ เช่น รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งสำคัญอย่างมากต่อชัยชนะของนายไบเดน
ทั้งนี้ เป็นที่คาดหมายกันว่า ทีมหาเสียงของนายทรัมป์และนายไบเดน จะทุ่มเทงบประมาณมากที่สุดในการหาเสียงที่รัฐฟลอริดา เนื่องจากเป็นรัฐที่มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) สูงที่สุดในบรรดารัฐสมรภูมิ โดยมีถึง 29 คะแนน ซึ่งผู้สมัครแต่ละฝ่ายต้องการ 270 คะแนนขึ้นไปเพื่อชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี
ในการเลือกตั้งปี 2559 นายทรัมป์ ชนะการโหวตในรัฐฟลอริดา โดยได้คะแนนมากกว่า นางฮิลลารี คลินตัน เพียง 113,000 คะแนน หรือเพียง 1.2% หลังจากนั้นเขาก็ใช้รัฐแห่งนี้เป็นที่พักอาศัย และเดินทางไปเยือนบ่อย
ผลโพลในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า นายไบเดน มีคะแนนนำ นายทรัมป์ ในรัฐฟลอริดาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเริ่มได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมดในรัฐ แต่การสนับสนุนจากคนเชื้อสายลาตินที่มีถึง 1 ใน 4 ของรัฐ ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งก่อน
[/responsivevoice]
ที่มา : ไทยรัฐ
