รบ.ทรัมป์ งัดข้อกับจีนอีกรอบ เตรียมห้ามนำเข้าสินค้าบางรายการจากเขตซินเจียง อ้างผู้ประกอบการบังคับใช้แรงงานชาวมุสลิมอุยกูร์ ละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง
สำนักข่าวบีบีซีรายงาน รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศคำสั่งใหม่ห้ามนำเข้าสินค้าบางชนิดจากบริษัทในประเทศจีน โดยอ้างว่า เนื่องจากมีการบังคับใช้แรงงานชาวมุสลิมอุยกูร์ ชนกลุ่มใหญ่ในเขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
สินค้าบางรายการจากซินเจียงที่จะถูกทางการสหรัฐฯ ห้ามนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศนั้น ยังรวมถึง เสื้อผ้า, ฝ้าย, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเส้นผม จากผู้ประกอบการ 5 แห่งทั้งในเขตปกครองตนเองซินเจียง รวมทั้งในมณฑลอานฮุย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน
ทางการสหรัฐฯ ชี้ว่ามีการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ในการผลิตผลิตภัณฑ์เหล่านี้ รวมทั้งการใช้แรงงานในโรงเรียนฝึกอาชีพ ที่ถูกเรียกขานว่า ‘ค่ายกักกัน‘ โดยนายเคนเนธ คุซชีเนลลี รักษาการ รมว.กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ กล่าวกับนักข่าวว่า นี่คือ ‘ทาสยุคใหม่’ เนื่องจากมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่ต้องมีการตอบโต้เป็นกรณีพิเศษ
ด้าน มาร์ค เอ.มอร์แกน รักษาการคณะกรรมาธิการสำนักงานศุลกากรและการป้องกันพรมแดนสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า คำสั่งนี้ ถือเป็นการส่งสารอย่างชัดเจนไปยังประชาคมโลกว่า สหรัฐฯ จะหมดความอดทนต่อการบังคับใช้แรงงานท่ีมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐอเมริกา
บีบีซีชี้ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดในการกดดันรัฐบาลจีนต่อสถานการณ์ในเขตซินเจียง เนื่องจากเชื่อกันว่า ทางการจีนได้คุมขังกักกันชาวมุสลิมอุยกูร์จากซินเจียงกว่า 1 ล้านคนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตอย่างยิ่ง ในขณะที่ ทางการจีนตอบโต้ว่า ที่นี่เป็นโรงเรียนฝึกอาชีพ เพื่อต้องการสอนทักษะฝึกหัดอาชีพ การให้ความรู้การศึกษา และความจำเป็นต่างๆ ในการต่อสู้กับการก่อการร้ายและภัยคุกคามจากการพยายามแบ่งแยกดินแดนในซินเจียง
[/responsivevoice]