[responsivevoice voice=”Thai Female” buttontext=”ฟังข่าว 5 นาที”]

วันที่ 23 ต.ค. บีบีซี รายงานว่า ตำรวจปราบจลาจลของโปแลนด์ยิงสเปรย์พริกไทยสลายกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนในกรุงวอร์ซอ ที่เดินออกมาเดินขบวนประท้วงคำตัดสินของศาลสูงสุดเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ว่า การยุติชีวิตทารกในครรภ์พิการเป็นความผิดตามรัฐธรรมนูญ

ถือเป็นความสำเร็จของการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการทำแท้งของปี 2356 ที่เดิมอนุญาตทำแท้งทารกในครรภ์พิการรุนแรงได้ จากการผลักดันของสมาชิก พรรคกฎหมายและยุติธรรม พรรครัฐบาลแนวชาตินิยม เมื่อปีที่แล้ว และผู้พิพากษาศาลสูงสุดส่วนใหญ่ได้รับการเสนอชื่อพรรครัฐบาลเช่นกัน

คำพิพากษาดังกล่าวโดยคณะตุลาการรัฐธรรมนูญเท่ากับว่า การทำแท้งจะอนุญาตเฉพาะเมื่อถูกข่มขืนหรือร่วมประเวณีกับญาติสนิท หรือเพื่อปกป้องชีวิตผู้เป็นแม่เท่านั้น ทำให้ประชาชนลงถนนประท้วงหลายเมืองทั่วประเทศ รวมถึงเมืองกรากุฟ เมืองลอดซ์ และเมืองเชตซิน

กลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนเดินขบวนจากศาลสูงสุดไปบ้านพักรองนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ นายยาโรสลัฟ คาชินสกี หัวหน้าพรรคกฎหมายและยุติธรรม เพื่อระบายความโกรธแค้นกับคำตัดสินของศาลสูงสุด บางคนถือเทียนหรือป้ายข้อความ “ทรมาน” ด้วย ท่ามกลางข้อกำจัดเนื่องด้วยการระบาดของโควิด-19 ที่ห้ามชุมนุมในเมืองหลวงเกิน 10 คน

ตำรวจแถลงว่า เจ้าหน้าที่ยิงสเปรย์พริกไทยและใช้กำลัง เมื่อผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจ ด้วยการขว้างปาก้อนหินใส่ และพยายามฝ่าทะลุวงล้อมตรึงกำลังรอบบ้านพักรองนายกรัฐมนตรี ส่วนผู้ประท้วงถูกจับกุม 15 คน

การชุมนุมยุติลงก่อนรุ่งสางวันศุกร์ที่ 23 ต.ค. แต่ผู้จัดการประท้วงเรียกร้องให้คนออกมาเดินขบวนต่อไปอีกในวันเดียวกันนี้

ดุนยา มียาโตวิช คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนสภายุโรป กล่าวทางทวิตเตอร์ว่า คำพิพากษาดังกล่าวถือเป็น “วันน่าเศร้าสำหรับสิทธิสตรี” และว่า “การลบสิทธิขั้นพื้นฐานการทำแท้งถูกกฎหมายเกือบทั้งหมดในโปแลนด์ถือเป็นการห้ามและละเมิดสิทธิมนุษยชน”

แต่ คายา โกเดค สมาชิกกลุ่มหยุดการทำแท้งของโปแลนด์ ยินดีกับคำพิพากษาของศาลว่า “ทุกวันนี้โปแลนด์เป็นตัวอย่างของยุโรปและเป็นตัวอย่างของโลก”

ทั้งนี้ โปแลนด์กฎหมายว่าด้วยการทำแท้งมีความเข้มงวดที่สุดในยุโรป คาดว่าทุกปีผู้หญิงราว 100,000 คน ต้องหาทางยุติตั้งครรภ์ในต่างประเทศแทน แต่แม้ว่าโปแลนด์จะหนึ่งในชาติคาทอลิกเป็นใหญ่ของยุโรป ผลการสำรวจความคิดเห็นชี้ว่า ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายว่าด้วยการทำแท้งที่เข้มงวดขึ้น กลุ่มสิทธิมนุษยชนเองยังเรียกร้องให้รัฐบาลโปแลนด์อย่าเพิ่มเข้มงวดไปมากกว่านี้

[/responsivevoice]
 

ที่มา : ข่าวสด

858 Views