ยอดผู้เสียชีวิตซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 119 รายเมื่อวันเสาร์ที่ 24 ต.ค. ส่วนใหญ่พบในจังหวัดกว๋างจิ เถื่อเทียน–เหว้ และกว๋างนาม

ขณะเดียวกันพื้นที่นาข้าวราว 9,300 ไร่ และพื้นที่เพาะปลูกพืชผลอื่นๆ อีกมากกว่า 48,000 ไร่ ต้องจมอยู่ใต้บาดาลหรือได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ขณะที่มีวัวและสัตว์ปีกเสียชีวิตหรือถูกพัดหายไปกับสายน้ำราว 934,800 ตัว

นอกจากนี้ ภัยธรรมชาติครั้งนี้ยังก่อให้เกิดดินถล่มและส่งผลให้การจราจรติดขัดบนทางหลวงและถนนหลายสายในท้องถิ่น

ด้าน นิวยอร์กไทมส์ รายงานโศกนาฏกรรมจากภัยพิบัตินี้ที่สะเทือนใจผู้คนมาก จากเหตุการณ์ที่เจังหวัดถื่อเทียน–เหว้น้ำหลากซัดเรือเล็กขณะสามีกำลังรีบพาภรรยาไปคลอดลูกที่โรงพยาบาล จนเรือคว่ำ กระแสน้ำยังพัดร่างฝ่ายหญิงจมหายไป กระทั่งตายทั้งกลม เมื่อสัปดาห์ก่อน

นายเหวียน ดักมินห์ ผู้สูญเสียภรรยาและลูก เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนให้ภรรยาซ้อนท้ายจักรยานยนต์เพื่อขับไปโรงพยาบาล จังหวะนั้นน้ำทะลักเข้าหมู่บ้านมาพอดี ทำให้ไปต่อไม่ได้ ตนจึงจ้างเรือเล็กให้ภรรยาโดยสารไปแทน

แต่ระหว่างการเดินทางลมแรงมากพัดเอาเสื้อผ้าทารกที่เตรียมไว้ลอยไป ตนจึงลงน้ำไปเก็บ จังหวะนั้นกระแสน้ำหลากแรงมากจนซัดเรือลอยไปไกลและคว่ำในที่สุด ทั้งยังพัดร่างนางฮวง ธิ เฟือง อายุ 35 ปี ภรรยานายเหวียนหายไปกับสายน้ำสีน้ำตาลที่เต็มไปด้วยตะกอนดิน

“ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาผม แต่ผมช่วยเธอไม่ได้ ทำได้อย่างเดียวคือร้องตะโกน” นายเหวียน กล่าว และเผยความโศกเศร้าในชะตากรรมของภรรยาที่เป็นคุณแม่ลูกสองและอุตส่าห์ต่อสู้กับโรคมะเร็งจนรักษาหาย แต่กลับเสียชีวิตในภัยพิบัตินี้

คลิปเหตุการณ์ที่จังหวัดเถื่อเทียน–เหว้ ดังกล่าว เผยแพร่ผ่านทางสื่อธานเนียนของเวียดนาม ทำให้ผู้คนทั่วประเทศพากันเขียนข้อความไว้อาลัยและแสดงความเสียใจกับครอบครัวนี้อย่างล้นหลาม

เหวียน ฑิ ซวน ธู ประธานกาชาดเวียดนาม กล่าวว่า อุทกภัยครั้งนี้เลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ