นับเป็นวันแห่งความปีติแห่งปวงชนชาวไทยอีกวันหนึ่ง ด้วยเป็นวันคล้ายวันประสูติของเจ้าชายพระองค์น้อย “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร” ที่ทรงเจริญพระชันษาครบ 16 ปี ในวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.256สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมารพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
มื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2548 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชหัตถเลขา ขนานพระนามว่า “พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ”
โดยพระนามของพระองค์นั้น แปลว่า “ผู้ทำประทีปคือปัญญาให้สว่างกระจ่างแจ้ง ผู้ทำเกาะคือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชติช่วง” โปรดเกล้าฯ ให้ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “His Royal Highness Prince Dipangkorn Rasmijoti”
ต่อมาวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศสถาปนาและเฉลิมพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูรสิริวิบูลยราชกุมาร
โดยทรงพระราชดำริว่า พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ซึ่งเป็นพระราชโอรส ได้ทรงเจริญวัยตั้งพระทัยศึกษา และทรงปฏิบัติสรรพกรณียกิจ อันควรแก่ขัตติยกุมารได้อย่างดียิ่ง เป็นที่ประจักษ์แก่มหาชนทุกหมู่เหล่า สมควรจะยกย่องพระเกียรติยศตามโบราณราชประเพณี
ทั้งนี้ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ทรงเข้าศึกษาที่โรงเรียนจิตรลดา โดยทรงเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ อาทิ กิจกรรมงานสัปดาห์รักการอ่าน ทรงร่วมการแสดงในงานของโรงเรียน ทรงสนพระทัยในการบินตั้งแต่ทรงพระเยาว์ โดยเสด็จไปประทานรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขันเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ในรายการหนูน้อยจ้าวเวหา ด้วยพระองค์เอง โดยทรงลองฝึกการบังคับเครื่องบินชนิดต่างๆ ปัจจุบัน ทรงศึกษาที่ประเทศเยอรมนี
นอกจากนี้ ยังทรงเป็นผู้นำในเรื่องการทำกิจกรรม “จิตอาสา” ด้วยทรงได้รับการปลูกฝังเรื่องการทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวง ที่ทรงพระคุณอเนกอนันต์และสร้างสุขแก่ปวงชนชาวไทย
เมื่อครั้งศึกษาประเทศเยอรมนี เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ทรงร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาร่วมกับข้าราชบริพารในช่วงวันหยุดเรียน ณ วัดป่ามุตโตทัย ประเทศเยอรมนี ในวันนั้น พระองค์ฉลองพระองค์เสื้อยืดโปโลสีดำ ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์ หมวกแก๊ปและผ้าพันคอ ทรงเช็ดถูหน้าต่างกระจกวัด ทรงทำความสะอาดรอยพระพุทธบาทจำลองและบริเวณรอบใต้ฐานพระพุทธรูป ทรงกวาดลานวัด ทรงถูพื้นด้วยพระองค์เอง และถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์
พร้อมประทานข้อความว่า “ถ้ากลับเมืองไทย จะไปทำที่เมืองไทยด้วย”
และเมื่อเสด็จกลับประเทศไทย ก็ทรงเข้าร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาบ่อยครั้ง อาทิ ทรงทำจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ทำความสะอาดวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เสด็จไปประทานสิ่งของแก่ตัวแทนจิตอาสาในพื้นที่ต่างๆ ทรงประกอบอาหารประทานให้แก่จิตอาสาฯ ด้วย
นอกจากนี้ ยังทรงสนพระทัยในพระพุทธศาสนา โดยทุกครั้งที่เสด็จกลับประเทศไทย ได้เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระกุศล และทรงสนทนาธรรมกับสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นการส่วนพระองค์อย่างสม่ำเสมอ
ในปี 2564 เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ทรงเจริญพระชันษาขึ้นมาก ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจต่างๆ มากยิ่งขึ้น ครั้นเสด็จกลับประเทศไทยครั้ง
ล่าสุด พระองค์โดยเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ทรงประกอบพระราชพิธีต่างๆ ทั้งยังโดยเสด็จไปทรงร่วมขุดดินในพิธีบวงสรวงพื้นที่โคก หนอง นา ณ บริเวณพระตำหนักเรือนต้น พระที่นั่งวิมานเมฆ พระราชวังดุสิต
อีกทั้งได้เสด็จตามสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เป็นการส่วนพระองค์ ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดสกลนคร และเสด็จตามสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นการส่วนพระองค์ ทรงงานโครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพื้นที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ด้วย
ทรงมุ่งมั่นปฏิบัติพระกรณียกิจเพื่อปวงชนชาวไทย