โดยประธานาธิบดีปูติน เปิดเผยว่า ต้องการทำให้พื้นที่ดังกล่าว “ปลอดทหาร” แต่รัสเซียไม่ได้ต้องการยึดครองแต่ประการใด พร้อมกับเรียกร้องให้ทหารยูเครนยอมวางอาวุธ และขอให้คำมั่นว่า ทหารยูเครน สามารถออกจากสนามรบโดยไม่มีอุปสรรคขัดขวาง

รายงานข่าวแจ้งว่า ภูมิภาคดอนบาสดังกล่าว ยังคงมีการสู้รบระหว่างทหารของกองทัพรัฐบาลยูเครน กับกองกำลังติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนในเมืองต่างๆ ของภูมิภาคแห่งนี้ เช่น โดเนตสก์ และลูแกนสก์

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีปูติน ยังระบุด้วยว่า สาเหตุที่ตนตัดสินใจสั่งการให้มีปฏิบัติการพิเศษทางทหารข้างต้น เนื่องจากการเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน รวมถึงเป็นการตอบโต้จากกรณีที่องค์การนาโตมีนโยบายก้าวร้าวต่อรัสเซีย ก่อนให้คำมั่นว่า จะนำพวกที่ทำให้พลเรือนเกิดการนองเลือด และพวกก่ออาชญากรรมในพื้นที่ดังกล่าวมาขึ้นศาล

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีรัสเซีย ยังกล่าวย้ำว่า ตนไม่มีแผนการรุกรานยูเครน ซึ่งเคยเป็นอดีตสมาชิกของสหภาพโซเวียตรัสเซียมาก่อน แม้ว่าตนได้วางกำลังทหารจำนวนนับแสนนายประชิดพรมแดนยูเครนก็ตาม ก่อนกล่าวเตือนว่า แต่หากใครที่พยายามยุ่มย่ามกับรัสเซีย ก็ควรจะต้องรู้ว่า รัสเซียพร้อมที่จะตอบโต้อย่างทันควัน และจะนำไปสู่ผลลัพธ์อย่างพวกนั้นไม่เคยรู้มาก่อน

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า หลังจากที่ประธานาธิบดีปูตินมีคำประกาศออกไปราว 30 นาที ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่หลายเมืองทางภาคตะวันออกของยูเครน เช่น เมืองมาริอูโปล เมืองโอเดสซา ซึ่งเป็นเมืองท่าริมฝั่งทะเลดำ รวมถึงที่กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ได้เกิดเหตุระเบิดหลายครั้งด้วยกัน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานถึงผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ

354 Views