หากเราสังเกตุ Instagram จะเห็นได้ว่า มีความพยายามที่จะทำให้คล้ายกับ Tiktok มากขึ้น ทั้งการเน้นวิดีโอสั้น ซึ่งเป็นผลมาจากผู้ใช้ของ Tiktok ที่เพิ่มมากขึ้นจนทำให้พฤติกรรมคนใช้โซเชียลมีเดียเปลี่ยนไป

Instagram ยังคงพยายามที่จะสร้างแพลตฟอร์มให้แข่งกับ TikTok โดยล่าสุดได้เริ่มทดสอบเปลี่ยนให้การโพสต์วีดีโอบนแพลตฟอร์มทั้งหมดไปอยู่ในรายการโพสต์ของ Reels ด้วยความคาดหวังว่าจะเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากขึ้นใน Instagram และ Facebook

ตามอีเมลที่ทาง TechCrunch สื่อต่างประเทศได้รับ โฆษกของ Meta ได้เผยว่า “เรากำลังทดสอบคุณลักษณะนี้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของเราในการปรับปรุงประสบการณ์วิดีโอบน Instagram และใช้งานได้ง่ายขึ้น”

Instagram Reels เปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2020 และมีส่วนร่วมอย่างมากในการปรับรูปแบบวีดีโอสั้นของ Reels และจากภาพที่ Matt Navarra โพสต์บน Twitter แสดงให้เห็นว่าขณะที่โพสต์วีดีโอบนแพลตฟอร์มทั้งหมดจะเป็นส่วนหนึ่งของ Reels เพื่อทำให้เกิดความน่าสนใจมากขึ้น

ล่าสุด Instagram ที่ได้มีการประกาศถึงแผนการอัปเดตแพลตฟอร์มที่เห็นได้ชัดเลยว่า Instagram ต้องการผลักดันให้ Reels มาสู้กับ TikTok มากขึ้น โดยการอัปเดตที่จะมาถึงนี้ มีการเพิ่มฟีเจอร์ที่จะเอื้อให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ใช่ครีเอเตอร์ สามารถสร้าง Reels ของตัวเองได้ง่ายขึ้นมาก เช่น ฟีเชอร์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถสร้าง Reels ของตัวเองโดยใช้เทมเพลตของคนอื่น หรือฟีเชอร์ที่ให้ผู้ใช้สามารถใช้กล้องพร้อมกันทั้ง 2 ด้าน (หน้า-หลัง) มาสร้างสรรค์วีดีโอให้มีความหลากหลายมากขึ้นแต่ไฮไลต์สำคัญของการอัปเดตครั้งนี้ จะอยู่ที่การบังคับให้วีดีโอทั้งหมด ที่มีความยาวน้อยกว่า 15 นาที บนแพลตฟอร์ม จะต้องถูกแชร์เป็น Reels ทั้งหมด โดยข้อบังคับดังกล่าวจะไม่มีผลย้อนหลังกับวีดีโอที่ผู้ใช้เคยลงไปแล้ว

การปรับเปลี่ยนดังกล่าว จะส่งผลให้ Reels มีคอนเทนต์ที่หลากหลายขึ้น จากวีดีโอส่วนตัวของผู้ใช้ที่กลายเป็น Reels โดยวีดีโอทั้งหลาย จะถูกนำไปขึ้นบนฟีด Discover ทำให้ผู้ที่ไม่ใช่ผู้ติดตาม สามารถมองเห็นวีดีโอของเราได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ตั้งบัญชีของตัวเองเป็นบัญชีส่วนตัว วีดีโอดังกล่าวก็จะแสดงอยู่บนฟีดของผู้ติดตาม เท่านั้น

นอกจากนี้ Instagram ยังได้มีการปรับหน้า Profile ของผู้ใช้ใหม่ โดยจะมีการนำแถบของ Reels มาขึ้นอยู่บนหน้าแรกของโปรไฟล์รวมกับโพสต์ที่เป็นรูปถ่ายของผู้ใช้อีกด้วย น่าสนใจว่า การพยายามจะเป็น TikTok ของหลายแพลตฟอร์ม จะไปจบที่ตรงไหน เพราะทุกวันนี้ไม่ว่าจะ YouTube Facebook หรือ Instagram ก็มีฟีเชอร์วีดีโอสั้นของตัวเองกันหมดแล้ว แถมยังพยายามปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ให้เหมือน TikTok ขึ้นทุกวัน

โดยก่อนหน้านี้ในการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของเฟซบุ๊ก (Facebook) ในปี 2021 มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก หัวเรือคนสำคัญออกมายอมรับว่า บริษัทกำลังมีแนวทางใหม่เพื่อดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นให้กลับมาใช้งานเฟซบุ๊กอีกครั้ง

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า บริษัทกำลังมีแนวทางใหม่ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 29 ปี โดยมองว่ากลุ่มอายุดังกล่าวเป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะเป็นลูกค้าของเฟซบุ๊ก

ผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก เปิดเผยต่อไปว่า การกำหนดกลุ่มเป้าหมายใหม่โดยเน้นไปที่ผู้ใช้งานที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้นนั้น ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของคำพูด แต่เป็นสิ่งที่เฟซบุ๊กจะลงมือทำจริง พร้อมกับเชื่อว่าน่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง

พร้อมกันนี้ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ยอมรับว่า การเปลี่ยนแปลงของเฟซบุ๊กในครั้งนี้จะใช้เวลาหลายปี ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทันทีตอนนี้ก็จะมีแค่อินสตาแกรม (Instagram) อีกหนึ่งบริการจากเฟซบุ๊ก โดยอินสตาแกรมจะเน้นเนื้อหาจำพวกวิดีโอมากขึ้น ไปจนถึงฟีเจอร์อย่าง Reels

การที่เฟซบุ๊กหันมาเน้นบริการที่เป็นวิดีโอและ Reels เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขามอง TikTok เป็นคู่แข่งรายสำคัญ ทั้งนี้จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตลอดเกือบสองปีที่ผ่านมา ทำให้ TikTok โดดเด่นเป็นอย่างมาก กลายเป็นแพลตฟอร์มที่วัยรุ่นจำนวนมากอาศัยอยู่ จนท้ายที่สุดบริษัทโซเชียลมีเดียใหญ่ๆ ของโลกต่างต้องมีฟีเจอร์วิดีโอสั้นแบบที่ TikTok ทำกันแทบทั้งหมด

บางช่วงบางตอนของการแถลงผลประกอบการ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ยอมรับด้วยตัวเองว่า TikTok เป็นหนึ่งในคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดที่เคยเผชิญมา

279 Views