เรื่องเล่าตำนานพิศวง หมู่บ้านผมสีเงิน ผมหงอกกันทั้งหมู่บ้าน แม้แต่เด็ก 10 ขวบ เป็นปริศนาอยู่นาน ก่อนความจริงถูกเปิดเผย
เกิดอะไรขึ้นในหมู่บ้าน
ในขณะนั้นที่เรื่องราวกลายเป็นประเด็นที่รับความสนใจ มีนักข่าวต้องการไปสืบหาความจริงในหมู่บ้าน จึงได้เดินทางไปยังพื้นที่ แต่ระหว่างถามทางไปจากชาวบ้านใกล้เคียง เขาก็ได้รับคำเตือนจากเกือบทุกคนว่า “หมู่บ้านนั้นถูกสาปแล้ว ถ้าคุณไปที่นั่น มันจะทำให้ผมหงอก คุณยังดูดีมาก ดังนั้นอย่าไปที่นั่น” แต่หลังจากได้ยินเช่นนั้น กลับทำนักข่าวยิ่งรู้สึกเหลือเชื่อ และอยากไปพิสูจน์ความจริงมากขึ้น
ทันทีที่เข้าไปถึงก็เห็นชาวบ้านในหมู่บ้านต่างมีผมสีขาวบนศีรษะ แม้แต่เด็กชายตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ดูเด็กมา แต่ผมของเขาเป็นหงอกแล้ว เด็กคนนี้อายุ 13 ปี เขาบอกว่าเขาเริ่มมีผมขาวตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ถ้าเพราะความเครียดก็ไม่น่าใช่ และหลังจากสำรวจต่อไปอีก ก็ยิ่งตกตะลึงเมื่อพบว่า กลุ่มคนอายุต่ำกว่า 20 ปีในหมู่บ้าน มีผมหงอกขึ้นบนศีรษะมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากอย่างน่าประหลาด
วิธีแก้ปัญหาของชาวบ้าน
ทุกคนในหมู่บ้านต่างได้รับผลกระทบจากผมหงอก ทำให้พวกเขาบางคนสูญเสียความมั่นใจ และรู้สึกอับอาย ดังนั้นหลาย ๆ บ้านจึงอาศัยการย้อมผมให้เป็นสีดำ อย่างไรก็ดี เมื่อผมยาวขึ้น ผมส่วนที่ไม่ได้ถูกย้อมที่งอกขึ้นมาใหม่ก็เป็นยังเป็นสีขาว ดังนั้นบางคนจึงมีผมสีดำครึ่งหนึ่งและผมสีขาวครึ่งหนึ่ง ในขณะที่อีกหลายคนก็ผมหงอกทั้งหัวเหมือนคนชราทั้ง ๆ ที่ยังอยู่ในช่วงวัยกลางคน
สมมุติฐานแรก
นักข่าวทีมสืบสวนสงสัยว่าเป็นปัญหาด้านโภชนาการ อาจจะเพราะไม่ได้บริโภคเกลือ เมื่อชาวบ้านได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะขำ กล่าวว่า แม้ว่าหมู่บ้านของเราไม่ได้มีเงินมากนัก แต่โดยพื้นฐานแล้วอาหารและเครื่องนุ่งห่มก็ไม่ขาดแคลน ไม่ต้องพูดถึงเกลือ ซึ่งมีราคาถูกมาก เราจะไม่มีเงินซื้ออาหารได้ไง”
นอกจากนี้ เมื่อไม่กี่ปีก่อน ทางศูนย์สุขภาพประจำเทศมณฑลก็ได้มาตรวจร่างกายทุกคนในหมู่บ้าน รายงานเผยว่า ชาวบ้านไม่มีปัญหาเรื่องโภชนาการ โดยเฉพาะวัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ภาวะโภชนาการของพวกเขาอยู่ในระดับที่ดีมาก
ปัจจัยทางพันธุกรรมหรือไม่ ?
เมื่อผู้คนที่อาศัยอยู่ในที่เดียวกัน มีลักษณะเหมือนกันเป็นจำนวนมาก อาจเป็นไปได้ว่าจะมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม อาจเป็นเพราะร่างกายของพวกเขาดูดซึมสารอาหารบางชนิดได้ยาก อย่างไรก็ตาม ชายชราคนหนึ่งในหมู่บ้านคัดค้าน เขาบอกว่า ครอบครัวของเขาไม่มีโรคทางพันธุกรรมนี้ ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีผมขาว จนกระทั่งแต่งงานกับคนในหมู่บ้าน แล้วย้ายมาอยู่ที่นี่ ถึงได้เริ่มมีผมขาวขึ้น
นอกจากนี้ มีกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ออกไปอยู่นอกหมู่บ้านหรือในเมืองเพื่อเรียนและทำงาน ภายหลังจากกลับมาที่หมู่บ้าน อาการผมขาวของพวกเขาก็ดีขึ้น ทางผู้เชี่ยวชาญจึงได้ทิศทางใหม่ในการไขปริศนา
ใกล้ความจริง แต่ยังไม่ถูก
จากการสำรวจสุขภาพของชาวบ้าน พบว่า คนในหมู่บ้านมากกว่าครึ่งมีปัญหานิ่วในไต แต่หลังจากศึกษารายการทางการแพทย์ ก็ไม่พบความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างโรคนิ่วในไต และผมสีขาว แต่มันก็ทำให้เริ่มจับทางได้ว่า “งั้นมีเหตุผลอะไรที่ทำให้นิ่วในไต และผมสีขาว สามารถเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่ ?”
ทีมสืบสวนได้เก็บตัวอย่างดินและผักในหมู่บ้าน แล้วนำกลับมาไปทดสอบที่ห้องปฏิบัติการ 7 วันต่อมา ผลที่ได้ทำให้ทุกคนกลับมามึนหัวอีกครั้ง เมื่อผลออกมาว่าพบว่า “ดินและอาหารเป็นไปตามกำหนดมาตรฐานของประเทศ” ผู้เชี่ยวชาญต่างวิตกกังวลและสับสน ขณะเดียวกันชาวบ้านจำนวนมากก็เริ่มย้ายออก เพราะพวกเขาคิดว่า “แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ คงเป็นเพราะหมู่บ้านถูกสาปจริง ๆ”
เบาะแสสำคัญ
ทางผู้เชี่ยวชาญยังไม่ล้มเลิกความพยายาม จนได้พบกับข้อมูลที่น่าสนใจ ชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่า “น้ำที่นี่มีรสขม ฝาด และเค็มมาก โดยทั่วไปแล้วจะค่อนข้างเป็นด่าง” ปรากฏว่ารอบหมู่บ้านไม่มีอ่างเก็บน้ำ มีแต่น้ำบาดาล ทีมสืบสวนจึงได้เก็บตัวอย่างน้ำและตัวอย่างเส้นผมของชาวบ้านไปตรวจสอบทันที
ผลปรากฏว่า ปริมาณนิกเกิลในเส้นผมของชาวบ้านเกินมาตรฐานปกติมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในน้ำ มีปริมาณโลหะที่เป็นอันตราย เช่น ปรอท และตะกั่ว เกินกว่าระดับมาตรฐานของน้ำบาดาลในจีน นั่นทำให้เกิดคำถามว่า “ไม่มีโรงงานติดกับหมู่บ้าน แล้วน้ำใต้ดินจะปนเปื้อนได้อย่างไร ?” ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญให้เหตุผลว่า “มลพิษทางน้ำ สามารถเกิดขึ้นได้จากการทำเหมืองมากเกินไป”
ข้อสรุป
นักข่าวกลับไปถามชาวบ้านอีกครั้ง ทำให้ทราบว่าชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ ขุดบ่อน้ำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ทำให้น้ำด้านล่างลดลง และผิวดินก็ทรุดลง กลายเป็นรูปทรงกรวย มลพิษเหล่านั้นจึงจะค่อย ๆ สะสม เมื่อเวลาผ่านไปจึงส่งผลต่อคุณภาพน้ำ
ภาพจาก NetEase