ภายหลังเผชิญหน้ากับเครื่องบินขับไล่ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ขณะบินเหนือน่าฟ้าซีเรีย ส่งผลให้ผู้โดยสารหลายคนได้รับบาดเจ็บ แต่โชคดีที่ไม่รุนแรง และต่อมาเครื่องลงจอดจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย

ไออาร์ไอบีระบุว่า เครื่องบินของมาฮานแอร์ลำดังกล่าวกำลังเดินทางจากกรุงเตหะรานของอิหร่าน ไปยังกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน แต่ระหว่างบินเข้าน่านฟ้าซีเรีย จู่ๆ มีเครื่องบินขับไล่บินเข้ามาในระยะประชิด

นักบินของมาฮานแอร์จึงติดต่อทางวิทยุไปยังนักบินเครื่องบินขับไล่ และเตือนว่าควรเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย ขณะที่นักบินเครื่องบินขับไล่แจ้งกับกัปตันของมาฮานแอร์ว่าพวกเขาเป็นชาวอเมริกัน

จากคลิปที่ผู้โดยสารบนเครื่องบินของมาฮานแอร์บันทึกจากหน้าต่างห้องโดยสาร เผยให้เห็นเครื่องบินขับไล่ลำหนึ่งบินเกือบจะคู่ขนานและอยู่ในระยะใกล้กับเครื่องบินโดยสาร ก่อนลดความสูงลงและวิดีโอก็ตัดจบ

อีกคลิปเป็นบรรยากาศในห้องโดยสารของเครื่องบินมาฮานแอร์ที่มีเสียงกรีดร้องหวาดกลัวดังระงม จากนั้นมีภาพของชายคนหนึ่งที่เลือดไหลอาบน้ำ ซึ่งชายคนนี้กล่าวว่าตอนที่เครื่องบินดิ่งลงกะทันหันศีรษะของตนเลยกระแทกอย่างแรงเข้ากับส่วนเพดานตรงที่นั่ง

นอกจากนี้ยังมีภาพสิ่งของตกเกลื่อนกลาดทั่วพื้นห้องโดยสาร และมีชายสูงวัยคนหนึ่งนอนคล้ายกับหมดสติอยู่บนพื้น โดยมีผู้โดยสารอีกคนและเจ้าหน้าที่ต้อนรับบนเครื่องบินกำลังช่วยเหลือ

วันเดียวกัน ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า กองบัญชาการกลางกองทัพสหรัฐแถลงยืนยันว่าเครื่องบินขับไล่ในเหตุเผชิญหน้าเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเครื่องบินเอฟ 15 ของกองทัพสหรัฐ กำลังปฏิบัติการตรวจพินิจเครื่องบินมาฮานแอร์ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน

พร้อมระบุว่าเครื่องบินเอฟ 15 ที่ทำภารกิจดังกล่าวมีด้วยกัน 2 ลำ แต่มีเพียงลำเดียวที่ถูกส่งขึ้นไปตรวจพินิจ และอยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัยราว 1,000 เมตร การตรวจสอบนี้เป็นไปตามมาตรฐานสากลเพื่อรับรองความปลอดภัยของกองกำลังพันธมิตร

ทั้งนี้ สายการบินมาฮานแอร์ถูกรัฐบาลสหรัฐคว่ำบาตรตั้งแต่ปี 2554 จากการสนับสนุนกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (กองทัพกุดส์) ซึ่งหนุนกลุ่มก่อการร้ายฮิซบัลเลาะห์ และขบวนการก่อการร้ายอื่นๆ ในต่างแดน