ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติ 310 ต่อ 9 ให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าประเทศ

ส.ส. ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้เสนอญัตติให้ตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บ่อนพนัน และการจัดระเบียบการพนันรูปแบบต่าง ๆ รวมกันถึง 12 ญัตติ

ข้อเสนอทั้งหมดจะถูกนำไปพิจารณาร่วมกันในชั้น กมธ. ซึ่งมีจำนวน 60 คน โดยมาจากสัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) 15 คน และพรรคการเมืองต่าง ๆ 45 คน ใช้เวลาแปรญัตติ 90 วัน

ก่อนการลงมติ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะเจ้าของญัตติขอให้ศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (NEC) เรียกร้องให้เพื่อนร่วมสภาร่วมกันลงมติเห็นชอบกับสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็น “วาระแห่งชาติ” เพื่อผลประโยชน์ของชาติ เพราะวันนี้มีหวยออนไลน์ บ่อนออนไลน์ มวยตู้ บ่อนเล็ก บ่อนน้อย ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศชาติ และอยากให้เห็นความจริงว่ารอบบ้านเรามีการหาประโยชน์จากคนไทย จนร่ำรวยมหาศาล

“อยากให้คนไทยเห็นการพนันเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกคนก็เล่นหวย ซื้อหวย ชนไก่ ชนวัว คือการพนันอยู่กับชีวิตมนุษย์ทุกคน มาถึง พ.ศ. นี้อยากจะให้ประเทศไทยได้ยอมรับความจริงว่าเราจำเป็นต้องหาเงินเข้าประเทศด้วยเมกะโปรเจกต์ ไม่ใช่ว่าจะเปิดบ่อน แต่เราจะเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าว

พิเชษฐ์
ที่มาของภาพ,ฝ่ายประชาสัมพันธ์ รัฐสภา
คำบรรยายภาพ, นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อยากให้คนไทยมองการพนันเป็นเรื่องปกติ

 

นายพิเชษฐ์ขยายความของคำว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไว้ว่า คือสถานที่ที่มีทุกสิ่งทุกอย่าง มีความสุขของคน มีความรับผิดชอบต่อตัวเอง เช่น หากคนไทยจะเข้าใช้บริการต้องมีเงินฝากในบัญชีอย่างน้อย 500,000 บาท และมีอายุ 21 ปีขึ้นไป และจูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้เดินทางเข้าไทย ซึ่งเชื่อว่าจะเพิ่มทั้งมูลค่าการท่องเที่ยว และทำให้ได้นักท่องเที่ยวระดับวีไอพีมากขึ้น

“วันนี้ไม่มีฝ่ายค้านกับรัฐบาล แต่เป็นความร่วมมือของทุกฝ่ายเพื่อให้เมกะโปรเจกต์ได้เกิดขึ้น และทำรายได้ให้กับประเทศ” นายพิเชษฐ์กล่าว

เช่นเดียวกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ผู้เสนอญัตติขอให้ศึกษาการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย ที่กล่าวว่า ความจริงไม่ได้อยากให้ประเทศไทยมีการพนัน แต่มันจำเป็นจริง ๆ เพราะแม้เราไม่มีกฎหมายให้เปิดกาสิโนอย่างถูกกฏหมาย แต่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว เมียนมา กัมพูชา ก็มีราว 40 แห่ง ในไทยน่าจะไม่น้อยกว่า 200 แห่ง

“ต่อให้เราไม่ออกกฎหมาย เขาก็ทำอยู่ แต่เงินดังกล่าวจะเป็นเงินใต้ดิน เป็นเงินนอกระบบ เงินดังกล่าวเอาไปใช้ผิดกฎหมาย ใช้วิ่งเต้นแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ เอาไปเป็นทุนสนับสนุนพรรคการเมือง นักการเมือง” นายมงคลกิตติ์กล่าว

หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ชี้ว่า จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน จำเป็นต้องตั้งกาสิโนถูกกฎหมาย พร้อมประมาณการณ์ว่าจะทำให้รายได้นอกระบบปีละ 80,000-120,000 ล้านบาท กลับมาอยู่ในระบบ และกำหนดหลักเกณฑ์ให้ชาวต่างชาติใช้บริการเป็นหลัก หากคนไทยจะเข้ากาสิโน ต้องเป็นผู้มีรายได้เกิน 50,000 บาท และเล่นได้ไม่เกิน 5% ของรายได้ มีอายุ 20 ปีขึ้นไป

เต้
ที่มาของภาพ,ฝ่ายประชาสัมพันธ์ รัฐสภา
คำบรรยายภาพ, นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ระบุว่า ในไทยน่าจะบ่อนกาสิโนที่ไม่ถูกกฎหมายไม่น้อยกว่า 200 แห่ง
 

นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันรัฐบาลจำเป็นต้องหารายได้มากขึ้น การตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถือเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่จะนำเม็ดเงินมาสู่ประเทศอย่างมากมายมหาศาล

ทำไม ส.ส. อยากให้มีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

สำหรับ ส.ส. ที่เป็นผู้นำเสนอ 12 ญัตติ มีทั้งสิ้น 14 คน จาก 9 พรรคการเมือง แบ่งเป็น พรรคพลังประชารัฐ 3 คนคือ นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายพิเชษฐ สถิรชวาล พรรคภูมิใจไทย 2 คนคือ นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ และนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคเพื่อไทย 2 คนคือ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย และนายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคพลังท้องถิ่นไทย 2 คนคือ และนายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายนพดล แก้วสุพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ส่วนที่เหลือมาจาก 5 พรรค ได้แก่ นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์, นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย, นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม และนางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังชาติไทย

กาสิโนภายในโรงแรมและเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพลกซ์ที่เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ลงทุนโดยนักธุรกิจชาวจีน
ที่มาของภาพ,GETTY IMAGES
คำบรรยายภาพ, กาสิโนภายในโรงแรมและเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพลกซ์ที่เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ลงทุนโดยนักธุรกิจชาวจีน

เหตุผลหลักที่ปรากฏในญัตติ และคำชี้แจงจากของบรรดาผู้แทนราษฎร-ผู้ชงข้อเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาการตั้งกาสิโนและเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

  • รายได้หลักของประเทศมาจากการเก็บภาษีประชาชนปีละ 2.7 ล้านล้านบาท ทว่านับจากการเกิดแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รายได้ของประเทศหดหายไป ทั้งจากการเก็บภาษีได้น้อยลง และรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป
  • หากมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะเป็นแหล่งรายได้ใหม่จากกลุ่มนักท่องเที่ยวและนักแสวงโชคชาวต่างชาติโดยที่ภาครัฐไม่ต้องลงทุน สร้างรายได้ให้แก่ประเทศปีละ 4 ล้านล้านบาท
  • นักธุรกิจชาวไทยและชาวต่างชาติที่พร้อมลงทุน และมีประสบการณ์ในการดำเนินสถานบันเทิงครบวงจรระดับโลก เช่น กาสิโน สวนสนุก สนามแข่งรถสูตร 1 โรงแรมระดับโลก ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอลโลก สนามกีฬาโอลิมปิกส์ ฯลฯ ที่พร้อมเข้ามาลงทุน จะนำมาสู่การจ้างงานหลายด้าน อันจะเป็นผลต่อต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
  • ปัจจุบัน ธุรกิจกาสิโนเติบโตขึ้นมากในประเทศเอเชีย-แปซิฟิก และประเทศเพื่อนบ้านของไทยต่างให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของธุรกิจกาสิโน แต่ไทยยังจัดให้เป็นกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย จึงมีเม็ดเงินจำนวนมากไหลออกไปต่างประเทศ
  • หากเปิดให้ดำเนินธุรกิจกาสิโนและการพนันรูปแบบต่าง ๆ เช่น หวยใต้ดิน โต๊ะพนันบอล สลากท้องถิ่น ฯลฯ ถูกกฎหมาย แล้วนำรายได้มาพัฒนาประเทศ ก็จะป้องกันการรั่วไหลของเงินจำนวนมากออกนอกประเทศได้ อีกทั้งการนำเงินรั่วไหล/เงินนอกระบบ เข้ามาอยู่มาระบบอย่างถูกต้อง จะทำให้รัฐสามารถเก็บภาษีได้เพิ่มเติม
  • ส.ส. ได้ยกตัวอย่างว่าจะนำเงินที่ได้จากเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือที่เรียกว่า “ภาษีบาป” มาใช้ทำประโยชน์ให้ประเทศ อาทิ ใช้หนี้สาธารณะของประเทศ, ลดภาษีน้ำมัน, สร้างหลักประกันคนเกษียณเดือนละ 3,000 บาท, ดูแลการศึกษาเยาวชน, แก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน, แก้ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ, แก้ปัญหาการขาดทุนของโรงงานอุตสาหกรรม
  • นอกจากมิติเศรษฐกิจ ส.ส. ยังนำเสนอผลประโยชน์ในมิติสังคม เช่น ทำให้มีฐานะข้อมูลของบ่อเกิดอาชญากรรม และได้ป้องกันการทุจริตในวงราชการ

เปิดโผจังหวัดที่ถูกตั้งเป็น “ตุ๊กตา” ผุดสถานบันเทิงครบวงจร

ในระหว่างสภาพิจารณาวาระนี้ ส.ส. เจ้าของญัตติได้ระบุถึงพื้นที่ที่เหมาะสมในการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไว้อย่างน้อย 2 พื้นที่

เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (NEC) ประกอบด้วย เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง เสนอโดย ส.ส. พรรคเพื่อไทย

อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เสนอโดย ส.ส. พรรคก้าวไกล ก่อนที่เจ้าตัวจะบอกว่าไม่จำเป็นต้องเป็น อ.หัวหิน ที่เสนอไว้เป็นตุ๊กตาเท่านั้น แต่อาจเป็น เชียงใหม่ ภูเก็ต หรือพื้นที่อื่น ๆ ที่มีศักยภาพใกล้เคียงหรือดีกว่า อย่างไรก็ตามหากมีการจัดตั้งได้จริง ก็จำเป็นต้องทำประชาพิจารณ์ประชาชนในพื้นที่

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักการเมืองไทยโยนข้อเสนอเรื่องการเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ขึ้นมาในพื้นที่สาธารณะ แต่เคยมีการเสนอและศึกษามาในหลายรัฐบาล ทว่ายังไม่เกิดผลเป็นรูปธรรม

ครั้งที่ใกล้เคียงความจริงมากที่สุดเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากนายกฯ คนที่ 23 เป็นผู้โยนแนวคิดนี้สู่สาธารณะเองเมื่อปี 2548 แล้วแต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เป็นประธานศึกษาเรื่องการจัดตั้งกาสิโนในประเทศไทย โดยตั้งรวมกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งปรากฏข้อมูลจากทั้งหน่วยงนที่สนับสนุนและคัดค้าน แต่สุดท้ายยังไม่ทันลงมือดำเนินการใด ๆ นายทักษิณก็ประสบปัญหาทางการเมือง จากการชุมนุมต่อต้านของกลุ่ม “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” และจบลงด้วยการรัฐประหารปี 2549

364 Views