สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รับทราบกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยแล้ว และกำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ฮิวแมนไรท์วอทช์ออกแถลงการณ์เรียกร้องนานาชาติกดดันรัฐบาลกัมพูชาให้สอบสวนและชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เว็บไซต์ประชาไทรายงานเมื่อ 4 มิ.ย. อ้างแหล่งข่าวว่าวันเฉลิมถูกอุ้มหายตัวไปจากหน้าคอนโดฯ ที่พักอาศัย ในกรุงพนมเปญเมื่อเวลา 17.54 น. โดยกลุ่มคนที่มีอาวุธปืน
บีบีซีไทยได้สอบถามถึงกรณีนี้ไปยังสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ซึ่งได้ตอบอีเมลกลับมาในวันนี้ (5 มิ.ย.) ว่าทางสำนักงานฯ ได้ทราบกรณีที่เกิดขึ้นแล้วและกำลังติดตามตรวจสอบเรื่องนี้
เชือดไก่ให้ลิงดู
กลุ่มผู้ลี้ภัยการเมืองในต่างแดนมองว่าการลักพาตัววันเฉลิม หรือ “ต้าร์” ผู้ลี้ภัยทางการเมืองไทยเป็นการ “เชือดไก่ให้ลิงดู” ของผู้มีอำนาจในประเทศ
การลักพาตัวอุกอาจครั้งนี้ยังเป็นการ “ส่งสัญญาณ” ให้ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ที่ส่วนใหญ่ล้วนถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต้องระวังตัวมากขึ้นในต่างแดน
“นี่คือการเชือดไก่ให้ลิงดู…พวกเราผู้ลี้ภัยต้องระวังตัวให้มากขึ้น” ผู้ลี้ภัยการเมืองในยุโรปคนหนึ่งกล่าวกับ บีบีซีไทย
“พวกเราได้แต่ภาวนาว่าต้าร์จะไม่ถูกฆ่าเป็นรายต่อไป”
#saveวันเฉลิม ขึ้นอันดับ 1 ทางทวิตเตอร์
ตั้งแต่รัฐประหารปี 2557 เป็นต้นมา มีคนไทยลี้ภัยในต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 100 คน ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา มีนักเคลื่อนไหวอย่างน้อย 6 คนที่หายตัวปริศนา อีก 2 คนกลายเป็นศพ ถูกคว้านท้องและยัดด้วยเสาปูน
หลังข่าววันเฉลิมถูกลักพาตัวถูกเผยแพร่ออกไปช่วงก่อนเที่ยงคืน แฮชแท็ก #saveวันเฉลิม ถูกรีทวีตออกไปอย่างรวดเร็วจนขึ้นอันดับ 1 ไปอยู่ที่ 2.43 แสนครั้ง ช่วง 04:00 น. และเพิ่มเป็น 1.02 ล้านครั้งในเวลา 20 น. ของวันที่ 5 มิ.ย. ขณะเดียวกัน แฮชแท็ก #RIPวันเฉลิม ก็มีผู้รีทวีตแล้ว 1.64 แสนครั้ง
วันเฉลิมคือใคร
วันเฉลิมแนะนำตัวเองบนเพจเฟซบุ๊ก Wanchalearm Satsaksit ว่าเขา “ต้องกลายมาเป็นผู้ลี้ภัยเพราะต้องการส่งเสริมประชาธิปไตย มาขณะนี้ได้เริ่มทำธุรกิจและออกสำรวจโลก” เขาระบุทางเพจด้วยว่าเคยทำงานองค์กรพัฒนาเอกชนกับเยาวชนด้านเอชไอวี/เอดส์มาก่อน
หลังรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 วันเฉลิมมีชื่อในกลุ่มบุคคลที่ถูกเรียกให้ไปรายงานตัวเมื่อ 8 มิ.ย. 2557 ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่เขาไม่ไป จึงถูกออกหมายจับในข้อหาฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช.
เมื่อ มิ.ย. 2558 สำนักข่าวอิศรานำข้อมูลผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและประเทศที่คาดว่าใช้หลบหนีจาก หน่วยงานความมั่นคงที่คอยติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหา โดยระบุว่าวันเฉลิมคือ 1 ใน 14 ผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ในลาว
เมื่อ 25 มิ.ย. 2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แถลงที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ว่า จากการตรวจสอบเพจเฟซบุ๊ก “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” ได้ลงทะเบียนใช้ในชื่อบัญชี Wanchalearm Satsaksit หรือ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ อายุ 35 ปี (ขณะนั้น) จากการสืบสวนพบว่าหลบหนีไปอยู่กัมพูชา โดยศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในความผิดฐาน “นำสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าวันเฉลิมพักอยู่ที่ลาวจริงไหม หรือย้ายจากลาวไปอยู่กัมพูชาเมื่อไร แต่เพื่อนผู้ลี้ภัยบอกกับบีบีซีไทยว่าเขาใช้ชีวิตอยู่ในกัมพูชามาราว 6 ปี และเลือกไม่ขอลี้ภัยในประเทศประชาธิปไตยอื่นในยุโรป สหรัฐฯ หรือ ญี่ปุ่น เพราะ เขาเลือกทำธุรกิจด้านการเกษตรกรรมในกัมพูชา
บีบีซีไทยตรวจสอบเพจ Wanchalearm Satsaksit พบว่า การโพสต์ของเขาส่วนใหญ่เป็นข่าวเศรษฐกิจและข่าวการเมืองที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและทหารเป็นหลัก โดยล่าสุดเมื่อ 3 มิ.ย. 2563 เขาโพสต์วิดีโอความยาว 53 วินาทีทางเฟซบุ๊ก โจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอย่างรุนแรง หลังนายกฯ ออกมาขอร้องประชาชนว่าอย่าด่าว่าประเทศ
เกิดอะไรขึ้นกับเขา
เว็บไซต์ประชาไทรายงานเมื่อ 4 มิ.ย. อ้างแหล่งข่าวว่าวันเฉลิมถูกอุ้มหายตัวไปจากหน้าคอนโดฯ ที่พักอาศัย ในกรุงพนมเปญเมื่อเวลา 17.54 น. ขณะเดินลงมาซื้อลูกชิ้นปิ้งหน้าคอนโดฯ แม้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยายามเข้าไปช่วย แต่กลุ่มคนที่มาอุ้มมีอาวุธปืนด้วย
แหล่งข่าวคนเดิมเล่าด้วยว่า ขณะเกิดเหตุเขาโทรศัพท์คุยกับวันเฉลิม โดยเสียงสุดท้ายที่ได้ยินจากวันเฉลิมผ่านโทรศัพท์คือ “โอ๊ย หายใจไม่ออก” ก่อนสายจะตัดไป แต่ในขณะนั้นเขาเข้าใจว่าเกิดอุบัติเหตุ และวันเฉลิมบาดเจ็บ จึงพยายามโทรกลับไปถามอีกประมาณครึ่งชั่วโมง รวมทั้งติดต่อเพื่อนของวันเฉลิมให้ช่วยตรวจสอบที่คอนโดฯ จึงทราบว่าวันเฉลิมหายไป
เว็บไซต์ประชาไทได้แสดงภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นรถเอสยูวีสีดำติดฟิล์มทึบคันที่เชื่อว่ามีวันเฉลิมอยู่ ขับออกจากคอนโดฯ ไป
ผู้ลี้ภัยในต่างแดนหลายรายบอกกับบีบีซีไทยว่า หลังข่าวนี้เผยแพร่ออกไป พวกเขาได้พยายามติดต่อกับวันเฉลิมผ่านทางแอปพลิเคชันสนทนา แต่ไม่สามารถติดต่อได้
“พนมเปญไม่ใช่ที่ซ่อนที่ปลอดภัยแล้ว ผู้ลี้ภัยชาวไทยส่วนใหญ่ย้ายไปประเทศอื่นแล้ว” ผู้ลี้ภัยทางการเมืองคนหนึ่งที่เคยพักอยู่ในกัมพูชากล่าว
“ประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียนตอนนี้ ก็ล้วนไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ลี้ภัยคนไทย เพราะ ผู้นำอำนาจนิยมทั้งหลายต่างผูกมิตร ช่วยเหลือกันหมด”
ฮิวแมนไรท์วอทช์ และ แอมเนสตี้ฯ : รัฐบาลกัมพูชาต้องชี้แจง
ฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch-HRW) ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อการลักพาตัววันเฉลิมและเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาออกมาชี้แจงเรื่องนี้ทันที
แถลงการณ์ระบุว่า “กรณีการลักพาตัวนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวไทยในกรุงพนมเปญ เป็นเรื่องที่ทางการกัมพูชาต้องออกมาชี้แจงโดยทันที” แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการ HRW ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวพร้อมกับเรียกร้องให้สืบสวนและตามหาตัววันเฉลิมอย่างเร่งด่วนเพื่อให้แน่ใจว่าเขาปลอดภัย
“รัฐบาลกัมพูชามีหน้าที่ค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับวันเฉลิมซึ่งถูกใช้อาวุธปืนจี้และลักพาตัวไปในกรุงพนมเปญ”
นายอดัมส์ยังเรียกร้องให้นานาชาติและองค์กรทุนต่าง ๆ กดดันให้รัฐบาลกัมพูชาดำเนินการหรือใช้มาตรการจำเป็นใดก็ตามเพื่อตามหาตัววันเฉลิมให้พบ ไม่เช่นนั้นอาจถูกมองว่าสมรู้ร่วมคิดกับการลักพาตัวครั้งนี้
ขณะที่แถลงการณ์ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล พุ่งเป้าไปที่รัฐบาลกัมพูชาเช่นเดียวกัน โดยระบุว่าทางการกัมพูชาจะต้องตามหาตัววันเฉลิมอย่างเร่งด่วนเพื่อให้แน่ใจว่าเขาปลอดภัย และหากพบตัว จะต้องไม่ส่งกลับประเทศไทย เพราะ “เสี่ยงที่จะถูกประหัตประหาร”
เดวิด กริฟฟิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเลขาธิการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลแถลงว่า ทางการกัมพูชาต้องเร่งสืบสวนต่อข้อกล่าวหาที่ว่า วันเฉลิมถูกลักพาตัวและต้องสืบให้ทราบว่าเขาอยู่ที่ใด ส่วนทางการไทยต้องยืนยันว่าวันเฉลิมถูกจับตามคำร้องขอของตนหรือไม่
“หากวันเฉลิมถูกควบคุมตัวอยู่ ทางการกัมพูชาต้องยืนยันว่า เขาอยู่ในการควบคุมของทหารหรือตำรวจ หากเขาอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของรัฐ เราขอให้ทางการประกันว่า ได้มีการควบคุมตัวเขาในสถานที่ควบคุมตัวอย่างเป็นทางการ และอนุญาตให้เขาสามารถติดต่อทนายความอิสระ เข้าถึงบริการทางการแพทย์และติดต่อครอบครัวได้ทันที”
“การหายตัวไปอย่างกะทันหันของเขาในเหตุการณ์ที่รุนแรง เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่ง” แอมเนสตี้ฯ ระบุ
ตำรวจไทย-กัมพูชา ประสานเสียง ไม่รู้เรื่อง
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หลังนายวันเฉลิมถูกออกหมายจับเมื่อปี 2561 ทางการไทยได้ใช้ช่องทางตำรวจสากลประสานงานไปตามปกติ ความร่วมมือทางคดีอาญา เรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และการโอนตัวนักโทษกลับมา ซึ่งเป็นการประสานไว้นานแล้วตั้งแต่ทราบว่ามีการหลบหนี
ส่วนเหตุลักพาตัวเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. นั้น เขาไม่ทราบรายละเอียด จะเป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่กัมพูชา ตามหมายจับหรือไม่นั้น เขาไม่ทราบ และยังไม่มีการยืนยันมาจากทางกัมพูชา
“สิ่งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศจะเป็นอย่างไรนั้น เป็นอำนาจอธิปไตยของประเทศนั้น ๆ ผมไม่ทราบรายละเอียด และตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันมาจากทางกัมพูชา” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ด้านโฆษกของตำรวจกัมพูชากล่าวกับรอยเตอร์ว่า ทางการกัมพูชาไม่ได้คุมตัวหรือจับตัวนักกิจกรรมคนดังกล่าว และในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอให้ตำรวจเปิดการสอบสวนเรื่องนี้
ส่วนสำนักข่าวเอพีอ้างคำพูดของ นายพลตำรวจ ฉาย กิม เขื่อน บอกว่า ไม่มีการลักพาตัวเกิดขึ้น และไม่มีความจำเป็นที่ตำรวจต้องสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้
“ตั้งแต่เช้ามา ผมรับโทรศัพท์ไปแล้วเกือบ 50 สายสอบถามเรื่องนี้ และตอบกลับไปเหมือนกันหมดว่า ‘มันเป็นข่าวปลอม ไม่เป็นความจริง’ ”
ที่มา : BBC NEWS THAI