โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบีบีซี วิเคราะห์ว่า รัฐไม่สามารถทนการชุมนุมขนาดใหญ่ที่ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ ได้นาน โดยเฉพาะตอนนี้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จกลับมาและจะทรงประทับในไทยไปอีกสักพักหนึ่ง
“การเคลื่อนไหวต่อไปจะเป็นไปด้วยความยากลำบากเมื่อแกนนำของพวกเขาถูกคุมขังอยู่นอกกรุงเทพฯ และมีคำสั่งห้ามชุมนุม ทางการอาจจะตามจัดการกับพวกที่เชื่อว่าอยู่เบื้องหลังเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับการชุมนุม”
เฮด บอกอีกว่า แต่สิ่งที่ผู้คนพูดออกไปแล้วเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ไม่สามารถย้อนกลับไปได้แล้ว เรื่องต้องห้ามไม่ใช่เรื่องต้องห้ามอีกต่อไป และนอกจากฝ่ายผู้สนับสนุนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสุดโต่งแล้ว คนทุกวัยและจากทุกที่ในประเทศต่างก็เห็นด้วยกับแกนนำนักศึกษาแล้วว่าสมเหตุสมผลที่สถาบันพระมหากษัตริย์จะเป็นส่วนหนึ่งหากจะมีการปฏิรูปสถาบันต่าง ๆ ในประเทศไทย
![Anti-government protest in Bangkok](https://ichef.bbci.co.uk/news/640/cpsprodpb/B8C5/production/_114910374_b1be8251-ffc7-4af9-8e71-52172313516c.jpg)
ด้าน นสพ.วอชิงตันโพสต์ บอกว่า ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อเช้ามืดวันที่ 15 ตค. เป็นสัญญาณแรกของความพยายามที่จะทำลายการเคลื่อนไหวชุมนุมเพื่อประชาธิปไตยที่นำโดยคนรุ่นใหม่เป็นส่วนใหญ่ วอชิงตันโพสต์ กล่าวถึงกรณีการแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านขบวนเสด็จของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกร รัศมีโชติ เมื่อวันที่ 14 ตค. ว่า ไม่กี่เดือนก่อน การแสดงออกในเชิงลบแบบตรงไปตรงมาแทบจะเป็นเรื่องที่ “ไม่สามารถคิดฝันได้เลย” แต่ได้กลายเป็นเรื่องที่พูดกันตรงไปตรงมามากขึ้นเมื่อการชุมนุมมีพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยผู้ประท้วงถือป้ายและโปสเตอร์ที่ล้อเลียนพระมหากษัตริย์
![จีน](https://ichef.bbci.co.uk/news/640/cpsprodpb/ECEC/production/_114925606_2.png)
นสพ.เดอะเทเลกราฟ ของอังกฤษ รายงานว่า มีการคาดเดาว่า ที่อยู่ดี ๆ รัฐบาลก็แสดงให้เห็นถึงกำลังเจ้าหน้าที่อาจเชื่อมโยงกับการมาเยือนของนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทวงต่างประเทศจีน ที่ทำเนียบรัฐบาล เดอะเทเลกราฟบอกว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและมุ่งเป้าไปที่ผู้นำชุมนุมทำให้นึกถึงยุทธศาสตร์ที่ทางการจีนและฮ่องกงใช้ในการปราบปรามผู้เห็นต่างในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง
ที่มา : bbc news thai