กต. เสียใจคนไทยเสียชีวิตในอิสราเอลเพิ่ม 3 ราย ลุยประสานเพิ่มสายการบินหวังนำคนไทยกลับวันละ 400 คน เผยนานาชาติ สุดห่วง ขออิสราเอลชะลอเปิดปฏิบัติการภาคพื้น เหตุอพยพคนนับล้าน 24 ชั่วโมงเป็นไปไม่ได้ ยันคนไทยไม่ใช่เป้าหมายการโจมตีของกลุ่มฮามาส หลังพบจ้อไทยลวงจับเป็นตัวประกัน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 14 ต.ค.66 นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวการให้ความช่วยเหลือคนไทย จากภัยสงครามในตะวันออกกลาง ว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังคงมีความรุนแรง ซึ่งเรายังมีความห่วงกังวลในเรื่องของการเข้าพื้นที่ภาคพื้นดินของทางการอิสราเอล เพราะก่อนหน้านั้นมีการประกาศขอให้ พลเมืองภาคเหนือของฉนวนกาซ่าอพยพออกภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งจนถึงขณะนี้อพยพออกมายังมีจำนวนน้อย โดยทางกลุ่มฮามาสออกมาบอกว่าเป็นสงครามจิตวิทยา ขอให้ทุกคนอยู่ที่เดิม เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายจับตามองอยู่ ทั้งนี้จากข้อมูลทั้งฝ่ายอิสราเอล และปาเลสไตน์ ต่างสูญเสียกำลังพลและพลเรือนเป็นจำนวนมาก จึงขอแสดงความเสียใจมาณที่นี้
นางกาญจนา กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าผลกระทบกับคนไทยในพื้นที่ นั้นต้องขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากได้รับรายงานจากทางสถานทูตไทยที่อิสราเอลว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 3 ราย รวมแล้วมีคนไทยเสียชีวิต 24 ราย ผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมจากเมื่อวาน 2 ราย รวมเป็น 16 ราย ผู้ถูกจับเป็นตัวประกันจำนวนเท่าเดิมคือ 16 ราย สำหรับร่างการส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับภูมิลำเนานั้น สถานทูตฯ ได้มีการติดต่อกับผู้จัดการบริษัทที่ทางการอิสราเอล ซึ่งมอบหมายให้เป็นผู้จัดการศพผู้เสียชีวิตชาวต่างประเทศในเหตุการณ์สงครามครั้งนี้ เพื่อขอให้เร่งรัดกระบวนการต่างๆ ในการส่งศพกลับภูมิลำเนา โดยทางการอิสราเอลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการส่งร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดกลับภูมิลำเนา
นางกาญจนา กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินการภารกิจอพยพคนไทย ซึ่งเวลาขณะนี้ (15.00 น. วันที่ 14 ต.ค.) เครื่องกำลังใกล้จะขึ้นไปรับคนไทยมามากับสายการบินฟลายดูไบ โดยจะเปลี่ยนเครื่องที่นครดูไบ และเดินทางถึงท่าอากาศยานอู่ตะเภา วันที่ 15 ต.ค เวลา 07:25 น. ซึ่งจะมีผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และผู้แทนกองทัพเรือไปให้การต้อนรับ และทีมบุคลากรทางการแพทย์ ตรวจสุขภาพกายที่นั่น ทั้งนี้จะไม่มีการสัมภาษณ์ที่สนามบินอู่ตะเภา เนื่องจากต้องดำเนินการพาพี่น้องคนไทยเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อพบกับญาติพี่น้องที่ SC SC Park ประมาณ 10.00 น. ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขจะดูตั้งแต่พื้นที่อู่ตะเภา เมื่อมาถึงก็จะมีหน่วยงาน เช่น กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมดูแล
นางกาญจนา กล่าวต่อว่า จากรายงานคนไทยที่จะเดินทางมาในวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.) ทั้งหมด 100 ราย เมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมาพึ่งเดินทางมาขึ้นเครื่องจำนวน 91 รายต้องดูอัพเดทต่อไปว่าจะเดินทางมาครบทั้ง 100 คนหรือไม่ แต่ทราบว่ามี 2 ราย ในบรรดา 100 ราย แจ้งความประสงค์ว่า จะขออยู่ต่อ
“ในวันที่ 15 ต.ค. ทางสถานทูตฯ จะอพยพคนไทยด้วยเครื่องบินของทอ. โดยออกจากกรุงเทลอาวีฟ เวลา 13.00 น. และเดินทางถึงท่าอากาศยานดอน เมืองในวันที่ 16 ต.ค. เวลา 04.40 น จำนวน 137 ราย นอกจากนี้ยังมีความ พยายามหาเที่ยวบินพิเศษชาร์เตอร์ไฟลท์ต่างๆ จำนวนมากเพื่อให้คนไทยได้เดินทางอย่างน้อยวันละ 400 ราย ในภาพรวมตอนนี้มีผู้แสดงความประสงค์กลับประเทศไทย 7,058 ราย บางส่วนกรอกข้อมูลซ้ำ ทางสถานทูตกำลังดูตารางให้ชัดเจน ว่ามีใครกรอกซ้ำบ้าง บางส่วนก็แสดงความประสงค์ว่าจะอยู่ต่อ” นางกาญจนา และว่และใน วันที่ 15 ต.ค.นี้ นายกฯจะมาเป็นประธานการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินที่กระทรวงการต่างประเทศ ในเวลา 16.00 น เพื่อติดตามการทำงานของทุกหน่วยงาน ซึ่งนายกฯให้ความสำคัญมากมีการติดตามสถานการณ์และดำเนินการช่วยเหลือคนไทยอย่างใกล้ชิด”
เมื่อถามถึงกรณีคนไทยที่รอดชีวิตกลับมามีระบุว่ากลุ่มฮามาสพูดภาษาไทยเพื่อล่อคนไทยไปสังหาร ขอให้ประเมินความเสี่ยงว่าคนไทยกำลังตกเป็นเป้าหมายหรือไม่ นางกาญจนา กล่าวยืนยันว่า คนไทยไม่ได้เป็นเป้าหมายพิเศษอะไร แต่เนื่องจากเป็นสถานการณ์สงคราม การจับกุมคนต่างๆ ไป คือคนที่อยู่ในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นคนอิสราเอลหรือคนต่างชาติก็ตาม คนไทยไม่ได้เป็นเป้าหมาย และที่เราได้รับฟังจากฝ่ายต่างๆ มาคือคนต่างชาตินั้น ไม่น่าจะเป็นเป้าหมายในการทำร้าย
เมื่อถามต่อว่า กลุ่มฮามาสเปิดเผยว่ามีตัวประกันเสียชีวิต 13 ราย จากการโจมตีทางอากาศของทางการอิสราเอล มีคนไทยหรือไม่ นางกาญจนา กล่าวว่า ตนทราบจากมีการติดตามข่าวเช่นกัน แต่ ยังไม่เห็นมีการเปิดเผยรายชื่อออกมา จึงยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีใครบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การที่อิสราเอลจะดำเนินการภาคพื้นดินนั้น จะมีผลกระทบต่อตัวประกัน และคนไทยมากขึ้นหรือไม่ นางกาญจนา กล่าวว่า ในแง่ของการดำเนินการยุทธการทางทหารทางภาคพื้นนั้น จะมีผลกระทบต่อทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งก็มีการคาดเดากันว่า ตัวประกันอาจจะถูกจับกุม และกระจายตัวอยู่ตามอุโมงค์ใต้ดินต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนที่ทุกคนมีความกังวล ทั้งนี้จากการติดตามข่าวทราบว่า ทางสหรัฐอเมริกาได้พยายามขอให้อิสราเอลชะลอการดำเนินการภาคพื้นดินไปก่อน รวมทั้งทางสหประชาชาติต่างๆ ก็ขอให้ทางการอิสราเอลชะลอการดำเนินการทางภาคพื้นดินด้วย เพราะการบอกให้อพยพคนเป็นล้านในเวลา 24 ชั่วโมงนั้น เป็นไปไม่ได้