ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สิ้นสุดลง เนื่องจากดำรงตำแหน่งยังไม่ครบ 8 ปี

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์เมื่อ 30 ก.ย. เพื่ออ่านคำวินิจฉัย โดยสรุปใจความสำคัญได้ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามมาตรา 158 วรรคสี่ ต้องเริ่มนับตั้งแต่ 6 เม.ย. 2560 อันเป็นวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง และมาตรา 158 วรรคสี่

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาถือเป็นการยุติข้อถกเถียงที่เกิดขึ้นในหมู่นักกฎหมายและนักการเมือง ซึ่งตีความเอาไว้ 3 แนวทาง นั่นทำให้ พล.อ. ประยุทธ์ วัย 68 ปี ยังมีอายุทางการเมืองเหลืออยู่อีก 3 ปี

เป็นเวลา 37 วันที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องระงับการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อรอฟังคำวินิจฉัยคดี “นายกฯ 8 ปี” ในที่สุด ก.ย. นี้ คำตอบปรากฏแล้วว่า พล.อ. ประยุทธ์ ได้ไปต่อ

บีบีซีไทยรวบรวมต้นตอของคดีนี้ และประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตลอด 37 วันที่ พล.อ. ประยุทธ์ จำต้องถอยห่างจากเก้าอี้นายกฯ จนถึงฉากทัศน์ที่จะเกิดขึ้นหลังสิ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 30 ก.ย.

สำหรับ 3 แนวทางการตีความวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ. ประยุทธ์ ที่เกิดขึ้นในสังคมการเมืองก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย

แนวทางแรก เริ่มนับวาระในวันได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ สมัยแรก เมื่อ 24 ส.ค. 2557 ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 (กษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามมติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ)

แนวทางที่สอง เริ่มนับวาระตั้งแต่ 6 เม.ย. 2560 ซึ่งเป็นวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560

แนวทางที่สาม เริ่มนับวาระในวันได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ สมัยสอง เมื่อ 9 มิ.ย. 2562 ตามรัฐธรรมนูญ 2560 (กษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามมติของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา)

รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ห้ามไม่ให้นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปี

BBCThai

270 Views