พระสงฆ์ภายในวัดบ้านใหม่ธงชัย อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชรเปิดศึก ทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง พระหนุ่มบันดาลโทสะใช้ปิ่นโตทุบใส่หัวพระรุ่นพ่อเสียชีวิต
เหตุสลดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 15ส.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สุกิจ กาวีอ้าย รอง สว.สส.สภ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งเหตุว่า มีพระภิกษุสงฆ์ฆ่ากันตายภายในศาลาวัด วัดบ้านใหม่ธงชัย หมู่ 7 ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร จึงรีบไปยังที่เกิดเหตุ บริเวณศาลาวัดส่วนผู้บาดเจ็บเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลคลองลาน นำตัวส่งโรงพยาบาลคลองลานต่อมาได้เสียชีวิตทราบชื่อคือ พระกุมาษ อาบสุวรรณ์ อายุ 64 ปี ราษฎรหมู่12 บ้านมอตะแบก ต.คลองลานพัฒนา สภาพร่างกายศีรษะแตกตามใบหน้ามีรอยพกช้ำ นอนหงายแน่นนิ่งเลือดไหล ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ พระเอนก ขวัญยืน อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 223 ม7 ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน เป็นพระลูกวัดเดียวกัน
จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การกับตำรวจว่า “พระทั้ง 2 รูปนี้ชอบทะเลาะวิวาทกันและพูดจาเสียดสีกันเล่นเป็นประจำ เวลาประมาณ 11.00 น. พระเอนก ขวัญยืน กับพระกุมาษ อาบสุวรรณ์ ซึ่งจำวัดอยู่วัดบ้านใหม่ธงชัย วัดเดียวกันได้หยอกล้อกัน แต่พระกุมาษ เกิดความไม่พอใจ จึงได้มีปากเสียงทะเลาะกัน พระเอนกได้เอาปิ่นโตทุบใส่ที่ศรีษะและได้ชกต่อยกัน ซึ่งพระกุมาษ ซึ่งมีอายุมากกว่าสู้ไม่ได้ได้ถูกชกต่อยเตะจนสลบนอนหงาย พระในวัดจึงได้เรียกกู้ภัยมารับตัวส่งโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ทันเสียชีวิต
ต่อมาพ.ต.อ.พิสิษฐ์ สงวนเขียว ผกก.สภ.คลองลาน พ.ต.ท.มนูญ แก้วพันเดิม รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.ถนอม อิ่มมณี สว.สส.พร้อมด้วยชุด สืบสวน สายตรวจคลองลานพัฒนา ได้ร่วมกันจับกุมตัว พระเอนก ขวัญยืน อายุ 49 ปี จากนั้นให้สึกจากสงฆ์แล้วสอบสวนนายเอนก ให้การรับสารภาพไม่มีเจตนาทำร้ายให้ถึงชีวิต แต่เพราะด้วยโทสะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินคดี “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย
ล่าสุด เมื่อเช้าวันที่ 16 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดใหม่ธงชัยพบพระสมจิตร แซ่เติ้น อายุ 45ปี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุพระอุมาษขึ้นมาจากสวนมานั่งบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อพักเหนื่อยรอฉันเพล จังหวะนั้นพระอเนกได้เดินขึ้นมาและพูดคุยหยอกล้อ แต่พระอุมาษไม่เล่นด้วย พร้อมไล่ให้พระอเนกออกไปไกลๆ พระอเนกจึงเดินออกไปพร้อมสะบัดจีวรไปถูกหน้าของพระอุมาษ
พระอุมาษจึงส่งเสียงด่าทอจากนั้นก็ทะเลาะวิวาทกันจนลงมือชกต่อยกัน แต่พระอุมาษอายุมากกว่าตัวเล็กกว่า จึงสู้แรงของพระอเนกไม่ไหวถูกชกต่อยจนล้มลง และพระอเนกยังแตะไปที่ลำตัวของพระอุมาษอีกหลายครั้งเมื่อเห็นแน่นิ่งไป พระอเนกได้สติจึงลงไปคลำตัวของพระอุมาษพร้อมกล่าวขอโทษ ว่าตนไม่ได้ตั้งใจ
อาตมาจึงวิ่งไปบอกเจ้าอาวาส พร้อมทั้งแจ้งกู้ชีพเทศบาลตำบลคลองลานมารับตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอคลองลานแต่แพทย์ระบุว่ามรณะภพมาก่อนแล้ว
ส่วนที่บ้านนางจะเด่น กินขุนทด อายุ 61ปีบ้านเลจที่ 78/2 หมู่12บ้านวังตะแบกตำบลคลิงลานพัฒนาอำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นบ้านของน้องสาวของพระอุมาษ ทางบ้านได้เตรียมจัดสิ่งของเพื่อนำร่างของพระอุมาษนางสาวลัดดา ร่วมจริตร หลานสาวพระอุมาษเปิดเผยว่าจะนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 วัน ส่วนความรู้สึกก็มีความเสียใจที่พระทำร้ายกันจนมรณภาพ แต่ก็ดีใจที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป